ดัชนีหุ้นไทยภาคบ่ายพุ่งกว่า 10 จุด ปรับตัวดีกว่าภูมิภาคที่ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ โดยรับแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานนำตลาดจากทิศทางราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงมีแรงซื้อกลับหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล หลังจากวันนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้นำค่ายา เวชภัณฑ์ และค่าบริการทางการแพทย์เข้าเป็นสินค้าและบริการควบคุมประจำปี 62 แต่ใช้แนวทางที่ผ่อนคลายมากขึ้น
เมื่อเวลา 15.22 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,599.25 จุด เพิ่มขึ้น 10.87 จุด (+0.68%)
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.39 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,598.81 จุด เพิ่มขึ้น 10.43 จุด (+0.66%)
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวขึ้นกว่า 10 จุด ทะลุ 1,600 จุดได้ ส่วนใหญ่มาจากหุ้นกลุ่ม Domestic Plays ที่ปรับตัวขึ้นได้ดี โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลที่ปรับขึ้นแรงจากแรงซื้อกลับ โดยเฉพาะ BDMS ที่รีบาวด์ได้แรง หลังจากที่ครม. เห็นชอบให้ค่ายา-เวชภัณฑ์-ค่าบริการทางการแพทย์เป็นสินค้าควบคุม แต่มีแนวทางที่ผ่อนคลายกว่าที่ตลาดคาดการณ์ หลังจากที่รมว.พาณิชย์ ออกมาระบุว่าการควบคุมดังกล่าวไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะเข้าไปควบคุมราคาสูงสุดในค่าบริการทางการแพทย์ และที่ผ่านมาก็ไม่เคยทำกับสินค้าตัวใด ยกเว้นสินค้าน้ำตาล ส่งผลให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาที่หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลจากก่อนหน้านี้ที่มีการขายลดความเสี่ยงไปมาก
นอกจากนี้ ตลาดฯยังได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ด้วย โดยเฉพาะหุ้น KTC และหุ้นในกลุ่มพลังงานก็ช่วยหนุนด้วย ทำให้ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้แข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบกัน
อย่างไรก็ดีให้ติดตามความคืบหน้าการเลือกตั้ง ในเรื่องการออกพ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ซึ่งน่าจะออกมาในเร็ว ๆ นี้ ส่วนปัจจัยนอกประเทศให้ติดตามสงครามการค้า, การแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) และตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และยูโรโซน พร้อมให้แนวรับ 1,585-1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,610 จุด