นายธานิน สัจจะบริบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บางกอกชีทเม็ททัล (BM) เปิดเผยว่า วันนี้ (28 ม.ค.) บริษัทได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ทางการค้าการลงทุน ระหว่างบริษัท กับพันธมิตรทางธุรกิจจากประเทศเมียนมา ได้แก่ บริษัท เกรท เมอริทส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจตู้สวิตซ์บอร์ดและอุปกรณ์ไฟฟ้า และบริษัท ทูน สตาร์ จำกัด ที่เป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นปตท. อย่างเป็นทางการแต่เพียงรายเดียวในเมียนมา
การร่วมลงนาม MOU ครั้งนี้ เพื่อจัดตั้งธุรกิจร่วมทุนในโครงการนิคมอุตสาหกรรมติลาวา ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา สำหรับเพิ่มศักยภาพในการหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจการผลิตและจำหน่ายสินค้าแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก เช่น ราง ตู้ไฟฟ้า ตู้โลหะ แผงควบคุมไฟฟ้า ตู้สื่อสาร รวมถึงสินค้าอื่น ๆ ในการแปรรูปโลหะ
"จุดมุ่งหมายหลักของการร่วมทุน คือ ขยายการลงทุนโดยนำเอาทรัพยากร ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ มาแลกเปลี่ยนระหว่างกัน เพื่อพัฒนาศักยภาพการผลิตสินค้า และเป็นการลดต้นทุน ส่งผลให้เพิ่มส่วนต่างกำไร โดยยังจะเพิ่มศักยภาพทางการตลาด พร้อมทั้งยังขยายฐานลูกค้า เพื่อส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจในประเทศเมียนมาและประเทศในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งยังถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างประเทศเมียนมากับประเทศไทยที่มีมาอย่างยาวนานอีกด้วย" นายธานิน กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานหลังจากที่ได้ลงนามใน MOU แล้วก็จะจัดตั้งบริษัทร่วมทุน โดยจะมีสัดส่วนการถือหุ้นจากพันธมิตรในเมียนมา 50% และกลุ่มผู้ถือหุ้นจากไทย 50% ซึ่งในส่วนนี้ BM จะถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 35-40% และมีบริษัทในไทยเข้าร่วมทุนอีก 4 รายที่มีความเชี่ยวชาญด้านสี ด้านระบบ และเกี่ยวข้องกับธุรกิจชิ้นส่วนพลาสติกที่จะเข้ามาสนับสนุนงานที่ครบวงจร
บริษัทร่วมทุนดังกล่าวตั้งงบลงทุนไว้ราว 200 ล้านบาท เพื่อเข้าซื้อที่ดินก่อสร้างโรงงาน คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปีนี้เกี่ยวกับรูปแบบโรงงาน และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ช่วงต้นปี 63 ใช้เวลาการก่อสร้างไม่เกิน 1 ปี
"บริษัทมองว่าการเข้าไปลงทุนในประเทศเมียนมาจะส่งผลให้บริษัทสามารถแข่งขันด้านราคาและเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นในอนาคต จากปัจจุบันบริษัทมียอดขายอยู่วนเมียนมาราว 5 ล้านบาทต่อปี"นายธานิน กล่าว
นายธีรวัต อมรธาตรี กรรมการผู้จัดการ BM เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 62 เติบโต 20% จากปี 61 เนื่องจากปัจจุบันมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 500 ล้านบาท โดยคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ภายในปีนี้ และบริษัทยังเดินหน้ารับงานใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนผลการดำเนินงานในอนาคต
นอกจากนั้น ล่าสุดบริษัทได้รับคำสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์เหล็กจากพันธมิตรประเทศสหรัฐ ซึ่งได้ขยายการผลิตในสายการผลิตแรก 10,000 ชิ้น/เดือน มูลค่าราว 300 ล้านบาท จากเดิมที่ 5,000 ชิ้น/เดือน หรือสร้างรายได้ราว 180 ล้านบาท/ปี โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตได้เต็มที่ในช่วงไตรมาส 2/62 นี้ และคาดว่าจะมีไลน์ผลิตที่สองซึ่งเป็นสินค้าประเภทอื่นๆ ต่อไปด้วย
"เป้าหมายรายได้เราที่เติบโต 20% หรือราว 1.23 พันล้านบาท ยังไม่ได้รวมกับคำสั่งซื้อใหม่จากสหรัฐที่เข้ามา โดยในปีนี้เป็นปีที่ดีสำหรับเรา ผลประกอบการก็คงจะออกมาทำสถิติสูงสุดใหม่ได้อย่างแน่นอน และยังมีโอกาสที่จะมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่เกิดขึ้น จะทำให้ผู้ประกอบการหลายๆราย ปรับกลยุทธ์คำสั่งซื้อสินค้าใหม่เพื่อรองรับความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น"นายธีรวัต กล่าว
ขณะที่บริษัทได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุน ชื่อ บริษัท ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า จำกัด โดย BM ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 19% และที่เหลือถือหุ้นโดยบริษัท ยานยนต์ไฟฟ้า จำกัด ถือหุ้นในสัดส่วน 81% เพื่อประกอบกิจการผลิตรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า เริ่มจากการส่งขายไปยังกลุ่มสหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงหลังวันตรุษจีนนี้ 50 คัน ประเมินยอดขายไม่ต่ำกว่า 200 คัน ราคาขายที่ 3.7-4 แสนบาทต่อคัน บริษัทดังกล่าวยังมีการพัฒนารถไฟฟ้ารูปแบบใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นรถกอล์ฟ รถให้บริการในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น