ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,632.60 จุด เพิ่มขึ้น 8.55 จุด (+0.53%) มูลค่าการซื้อขาย 48,709.67 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,632.83 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,622.59 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 761 หลักทรัพย์ ลดลง 519 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 508 หลักทรัพย์
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวคล้ายกับตลาดภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยต่างรอความชัดเจนจากปัจจัยนอกประเทศ ทั้งเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังมีความไม่แน่นอน และผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งตลาดฯคาดว่าจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงเรื่องการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)ทำให้ปัจจัยนอกประเทศถ่วง Sentiment ในระดับหนึ่ง
ส่วนปัจจัยในประเทศดูจะเป็นบวกมากกว่านอกประเทศที่ยังคลุมเครือ โดยเฉพาะการเลือกตั้งที่มีความชัดเจนเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ Fund Flow ไหลเข้า ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เพราะปีที่แล้วนักลงทุนต่างชาติก็ขายไปมาก และเชื่อว่ามีนักลงทุนบางส่วนที่รอซื้อหลังเลือกตั้งเสร็จสิ้น นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนกลุ่ม Real Sector หลังจากผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ยังไม่ดีนัก
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค.) นายธนเดช กล่าวว่า ตลาดฯคงจะอยู่ในลักษณะของการแกว่งตัว แต่ก็มีโอกาสปรับขึ้นได้บ้าง พร้อมให้แนวรับ 1,620-1,615 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640-1,650 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,410.24 ล้านบาท ปิดที่ 121.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,507.99 ล้านบาท ปิดที่ 78.00 บาท ลดลง 0.75 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,507.91 ล้านบาท ปิดที่ 472.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,459.97 ล้านบาท ปิดที่ 48.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,518.14 ล้านบาท ปิดที่ 193.00 บาท ลดลง 0.50 บาท