SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,653.62 จุด เพิ่มขึ้น 2.22 จุด (+0.13%) มูลค่าการซื้อขาย 31,741.93 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ ด้วยมูลค่าซื้อขายเบาบางจากตลาดหุ้นภูมิภาคหลายแห่งหยุดทำการช่วงตรุษจีน ขณะที่นักลงทุนเลือกซื้อหุ้นรายตัว อย่างกลุ่มค้าปลีกคาดรับประโยชน์จากเม็ดเงินสะพัดช่วงเลือกตั้ง รวมถึงแรงซื้อในหุ้นกลุ่มโรงกลั่นหลังมองค่าการกลั่นผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ประเมินตลาดหุ้นไทยยังแกว่งในกรอบต่อพรุ่งนี้จากแรงเก็งกำไรปัจจัยในประเทศ ให้แนวรับ 1,650 จุด และแนวต้าน 1,665 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,653.62 จุด เพิ่มขึ้น 2.22 จุด (+0.13%) มูลค่าการซื้อขาย 31,741.93 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,659.26 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,652.14 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 683 หลักทรัพย์ ลดลง 608 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 492 หลักทรัพย์
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ได้รับแรงซื้อหุ้นรายตัวจากการเก็งกำไรปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีกที่จะได้ประโยชน์จากการเลือกตั้งที่มีความชัดเจนมากขึ้นหลังมีการเปิดรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในวันนี้ทำให้คาดว่าในช่วง 1-2 เดือนก่อนการเลือกตั้งจะมีเม็ดเงินสะพัดมากขึ้น ซึ่งเป็นผลบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก
นอกจากนี้ยังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มโรงกลั่น หลังจากค่าการกลั่นฟื้นตัว ทำให้นักลงทุนคาดว่าค่าการกลั่นน่าจะผ่านจุดต่ำสุดในระดับกว่า 1 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในช่วงเดือน ม.ค.62 มาแล้ว หนุนให้มีแรงเก็งกำไรเข้ามาด้วย
ส่วนแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติในช่วงนี้น่าจะเบาบางลงไป เนื่องจากหลายตลาดในภูมิภาคเริ่มหยุดทำการช่วงเทศกาลตรุษจีน ทำให้มูลค่าซื้อขายเบาบางลงไป ประกอบกับ อาจจะยังรอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 6 ก.พ.นี้ว่าจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศอย่างไร หลังจากเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ค่าเงินบาทของไทยนับว่าแข็งค่าที่สุดในโลก
สำหรับแนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ (5 ก.พ.) ตลาดน่าจะยังมีแรงเก็งกำไรจากปัจจัยในประเทศ และภาพการเคลื่อนไหวของดัชนีก็จะยังคล้ายคลึงกับวันนี้ โดยมีมูลค่าซื้อขายที่เบาบางต่อเนื่อง
พร้อมให้แนวรับที่ 1,650 จุด และแนวต้านที่ 1,665 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,104.71 ล้านบาท ปิดที่ 49.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,074.34 ล้านบาท ปิดที่ 69.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,008.47 ล้านบาท ปิดที่ 125.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 915.64 ล้านบาท ปิดที่ 202.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 876.42 ล้านบาท ปิดที่ 69.25 บาท ลดลง 0.50 บาท