ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดเช้าลบ 1.66 จุด วอลุ่มบางช่วงหลายตลาดภูมิภาคหยุดตรุษจีน เจอแรงขายหุ้นพลังงานถ่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 5, 2019 12:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,651.96 จุด ลดลง 1.66 จุด (-0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 12,915.44 ล้านบาท รับแรงขายนำในหุ้นกลุ่มพลังงานและอาหาร นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้เงียบเหงาวอลุ่มบางหลังหลายตลาดในภูมิภาคปิดทำการช่วงเทศกาลตรุษจีน ทำส่งผลให้ภาพการเคลื่อนไหวของดัชนีไม่มีนัยสำคัญมากนัก โดยแกว่งกรอบแคบรอปรับขึ้น ยังคาดหวังเม็ดเงินต่างชาติหลังเฟดส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย, เจรจาการค้าสหรัฐและจีนคืบหน้า มองดัชนีจะยังแกว่งแคบ-วอลุ่มเบาในภาคบ่าย ให้แนวรับ 1,645 และ 1,635 จุด ส่วนแนวต้าน 1,660 และ 1,662 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,651.96 จุด ลดลง 1.66 จุด (-0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 12,915.44 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยดัชนีปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดที่ 1,654.98 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ระดับ 1,645.57 จุด

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน และบรรยากาศน่าจะยังคงเงียบเหงาต่อเนื่องในวันพรุ่งนี้ ก่อนจะกลับมาคึกคักช่วงปลายสัปดาห์ โดยการเคลื่อนไหวของดัชนีเป็นลักษณะ Sideway ด้วยวอลุ่มที่ค่อนข้างน้อยทำให้การเปลี่ยนแปลงของดัชนีไม่ได้มีนัยสำคัญมากนัก ขณะที่ภาพรวมตลาดก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น การแกว่งตัวของดัชนีในวันนี้เป็นเพียงการรอเวลาปรับขึ้นเท่านั้น

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ต้นปีดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเพียง 5.8% ถือว่าขึ้นมาน้อยกว่าตลาดโลกที่ปรับขึ้นไปราว 8.1% และตลาดเอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่น ปรับขึ้นราว 7.3% หลังได้รับผลบวกจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย และตลาดยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ซึ่งรวมถึงเป็นโอกาสของตลาดหุ้นไทยด้วย

ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศ ยังมีความชัดเจนเรื่องวันเลือกตั้ง แต่การที่เม็ดเงินยังไม่ไหลเข้ามาในตลาดหุ้นมากนัก อาจจะเพราะยังไม่มั่นใจต่อสถานการณ์หลังการเลือกตั้ง ทั้งในส่วนของเสถียรภาพและนโยบายของรัฐบาลใหม่ อีกทั้งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังได้ปรับลดประมาณการกำไรและราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียน จากความกังวลต่อกลุ่มพลังงานจะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันปรับลดลง และเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่หากไม่นับรวมการผลดำเนินงานของกลุ่มพลังงานก็จะพบกว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนยังเติบโตได้กว่า 10%

ส่วนแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย คาดว่าบรรยากาศการซื้อขายจะยังคงเงียบเหงา จากวอลุ่มที่เข้ามาไม่มากนัก โดยมองแนวรับบริเวณ 1,645 จุด และ 1,635 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,660 จุด และ 1,662 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 509.02 ล้านบาท ปิดที่ 23.70 บาท ลดลง 0.10 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 451.24 ล้านบาท ปิดที่ 201.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

CPF มูลค่าการซื้อขาย 393.70 ล้านบาท ปิดที่ 27.00 บาท ลดลง 0.25 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 388.99 ล้านบาท ปิดที่ 125.00 บาท ลดลง 0.50 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 356.85 ล้านบาท ปิดที่ 49.00 บาท ลดลง 0.25 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ