(เพิ่มเติม) ADVANC เปิดตัว AIS DigitALL Shop แห่งแรกที่ภูเก็ต ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าดิจิทัล ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้น 30%

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 8, 2019 17:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายฮุย เวง ชอง กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสเปิดตัว AIS DigitALL Shop อย่างเป็นทางการแล้ว ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า จังหวัดภูเก็ต แห่งแรกของเมืองไทย กับการปฏิวัติกระบวนการในการให้บริการลูกค้า ภายใต้แนวคิด "The Unmanned Store" ช่วยให้ลูกค้าได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว และง่ายมากยิ่งขึ้น โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลต่างๆ เข้ามายกระดับงานบริการให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้ายุคดิจิทัลได้อย่างลงตัวมากที่สุด เพราะจากการศึกษาพบว่า พฤติกรรมของลูกค้ากลุ่ม Gen C มีความชื่นชอบการ Control ทุกอย่างด้วยตนเอง , ชอบความสะดวกรวดเร็ว และชอบใช้จ่ายผ่านมือถือ โดยเป็นกลุ่มที่สนใจและตื่นตัวกับความเปลี่ยนแปลงของโลกเทคโนโลยี ชอบเรียนรู้และทดลองหาประสบการณ์แปลกใหม่อยู่เสมอ มักจะค้นหาข้อมูลก่อนตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและเข้ามาทดลองใช้งานจริง ภายใน AIS Shop ด้วยตัวเอง

นางบุษยา สถิรพิพัฒน์กุล Head of Customer & Service Management ของ ADVANC กล่าวว่า การพลิกโฉมงานบริการในครั้งนี้ว่า "AIS DigitALL Shop เป็นรูปแบบการให้บริการที่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน เป็นการทลายทุกข้อจำกัดของงานบริการ ดังนั้นจึงมีการปรับรูปแบบการให้บริการ โดยนำเทคโนโลยีต่างๆ มาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ด้วยแนวคิด "The Unmanned Store" ที่ไม่มีการกดรับคิว (No Queue) ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น, ไม่ต้องใช้เงินสด (No Cash)

โดยลูกค้าสามารถชำระค่าสินค้าและบริการได้อย่างรวดเร็วผ่าน Rabbit LINE Pay และ Thai QR Payment และไม่ต้องมีเคาน์เตอร์บริการ (No Counter Service) ด้วยระบบอัจฉริยะที่เชื่อมโยงฐานข้อมูลสำคัญต่างๆ ช่วยให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมต่างๆ ได้ด้วยตนเองอย่างง่ายดาย และที่พิเศษสุด คือการนำระบบ Robotic มาช่วยงานบริการภายใน AIS DigitALL Shop ด้วย โดยลูกค้าจะได้พบกับ "ลิซ่า" หุ่นยนต์อัจฉริยะที่จะมาช่วยให้ข้อมูลพื้นฐานและนำลูกค้าไปยังจุดให้บริการต่างๆ ที่ต้องการ ซึ่งทั้งหมดนี้ ถือเป็นการปฏิวัติกระบวนการทำงานแบบใหม่ทั้งหมด

โดย AIS DigitALL Shop มีการแบ่งโซนต่างๆ ออกเป็น 4 โซน ได้แก่

1.DIGIT PERSONAL ASSISTANT ด้วยการนำ "ลิซ่า" หุ่นยนต์อัจฉริยะมาช่วยในงานบริการ ในการให้ข้อมูลพื้นฐานและนำลูกค้าไปยังจุดให้บริการต่างๆที่ต้องการ

2. DIGIT ORDER บริการหน้าจอสั่งซื้อและทำบริการด้วยตัวเอง ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ ลูกค้าทุกคน สามารถเลือกซื้อสินค้าพร้อมทำบริการต่างๆ

3. DIGIT VENDING บริการตู้ซื้อสินค้าอัตโนมัติ รับสินค้าได้ทันที

4. DIGIT CAFE โซนคาเฟ่ในแบบดิจิทัลไลฟ์ จำหน่ายเครื่องดื่มและอาหารว่าง ผ่าน SMART

COFFEE MACHINE และ RABBIT LINE PAY VENDING

5. DIGIT INNOVATION โซนจัดแสดงและให้ความรู้แก่ลูกค้าผู้ที่สนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ของเอไอเอส

ด้านนายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป ADVANC กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ใช้งบลงทุนในการพัฒนา AIS DigitALL Shop ที่ 20 ล้านบาท โดยคาดหวังจะมียอดขายสาขาดังกล่าวเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 30% เมื่อเทียบกับยอดขายสาขาเดิมในรูปแบบปกติที่ทำได้เฉลี่ย 10 ล้านบาท/เดือน เนื่องด้วยพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม สามารถรองรับลูกค้าทั้งลูกค้าชาวต่างชาติ และลูกค้าเอไอเอส รวมถึงลูกค้าที่จะย้ายค่ายมาที่เอไอเอสในอนาคต ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานลูกค้าเอไอเอสในจ.ภูเก็ต ที่เป็นลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติ อย่างละครึ่งๆ ขณะเดียวกันก็จะช่วยดึงดูดกลุ่มลูกค้า Gen C เข้ามาใช้บริการมากขึ้น จากปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานลูกค้าดังกล่าวไม่น้อยกว่า 30-40% ของฐานลูกค้าทั้งหมด

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแผนการขยายสาขาในรูปแบบดังกล่าวในจังหวัดอื่นๆ โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นเมืองอัจฉริยะ (SMART CITY) และในกรุงเทพฯ ด้วย เพื่อเพิ่มประสบการณ์ดิจิทัลให้กับลูกค้า เป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ ที่จะมุ่งเน้นการนำ AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการให้บริการในทุกๆด้าน แต่อย่างไรก็ตาม AIS DigitALL Shop ที่จ.ภูเก็ตแห่งนี้ จะเป็นสาขาต้นแบบ ในการดูพฤติกรรมของลูกค้าในการเข้ามาใช้บริการ เพื่อประเมินและวางแผนขยายสาขาต่อไป ซึ่งน่าจะเห็นความชัดเจนได้ในช่วงกลางปีนี้

พร้อมกันนี้นอกจากการให้บริการผ่านสาขารูปแบบใหม่แล้ว ในปีนี้บริษัทฯ จะขยายช่องทางการให้บริการกับลูกค้าในหลากหลายช่องทางมากขึ้น หรือ Omni Channel เช่น การส่งพนักงานไปให้บริการที่บ้าน เป็นต้น

นายปรัธนา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการเปิดสาขาในรูปแบบใหม่ในครั้งนี้ จะช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพนักงานลง เนื่องจากจะมีพนักงานประจำสาขาดังกล่าวเพียง 10 กว่าคน ซึ่งน้อยกว่าสาขาปกติทั่วไปที่จะมีพนักงานให้บริการลูกค้าถึง 30 คน โดยคาดว่าจะสามารถลดต้นทุนลง 30-40% ของต้นทุนโดยรวมของบริษัท และน่าจะปรับตัวลดลงมากขึ้นในอนาคต ตามการขยายสาขาในรูปแบบ DigitAll Shop

"การเปิดสาขารูปแบบใหม่นี้ แน่นอนการลงทุนจะมีต้นทุนสูงกว่าการลงทุนสาขาปกติ ซึ่งสาขารูปแบบเดิมจะใช้เงินลงทุนเพียง 10 ล้านบาท/สาขา เมื่อเทียบกับสาขารูปแบบใหม่ที่ใช้เงินลงทุน 20 ล้านบาท เนื่องจากต้องลงทุนด้านอุปกรณ์เทคโนโลยี แต่อุปกรณ์ที่ใช้จะมีระยะเวลาการใช้งานยาวนาน เมื่อเทียบกับต้นทุนของพนักงาน ที่จะมีต้นทุนเป็นรายเดือน ทำให้ช่วงแรกของการลงทุนย่อมสูงกว่า แต่ในระยะยาวต้นทุนจะลดลงกว่ามาก"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ