(เพิ่มเติม) AP ตั้งเป้ารายได้รวมปี 65 แตะ 6 หมื่นลบ.พร้อมเปิดตัว 3 ธุรกิจใหม่ ,ปี 62 คาดยอดขายโต 5-10% หนุนรายได้ขยายตัว 15%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 12, 2019 14:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) (AP) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปี 65 แตะ 6 หมื่นล้านบาท โดยดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ "AP World, A New Vision of Quality of Life" ในการสร้างพิมพ์เขียวแห่งคุณภาพชีวิตที่ดีในวันข้างหน้า ซึ่งจะสมบูรณ์ไปด้วยระบบนิเวศ (Eco System) ที่บริษัทพัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อมุ่งสู่การเป็นรายแรกที่ริเริ่มสร้างสรรค์โลกแห่งคุณภาพชีวิตที่ดี อีกทั้งยังเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ บริษัทได้เปิดตัว 3 ภาคธุรกิจใหม่ (Disruptive Business) ได้แก่ 1) VAARI ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการสร้างระบบนิเวศที่สนับสนุนการบริหารจัดการคุณภาพชีวิต 2) CLAYMORE ดำเนินธุรกิจสร้างและผลักดันนวัตกรรมดีไซน์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่ยังไม่ถูกค้นพบ และ 3) SEAC ดำเนินธุรกิจในการดิสรัปวิธีการเรียนรู้ของคนในองค์กรและคน ในสังคมด้วยกระบวนการใหม่ ๆ ผ่านความร่วมมือจากสถาบันระดับโลก

สำหรับทั้ง 3 ธุรกิจใหม่จะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ช่วยเสริมวิสัยทัศน์ในการส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้ประสบความสำเร็จ เคียงคู่ไปกับ Core Business คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบริษัทในเครือที่จะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

นายอนุพงษ์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าใช้งบลงทุนสำหรับ 3 ธุรกิจใหม่ในช่วงปี 61-62 จำนวน 1 พันล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นใช้เงินลงทุนไปแล้ว 400-500 ล้านบาท และวางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้ทั้ง 3 ธุรกิจใหม่เป็น 10% ของเป้าหมายรายได้รวมในปี 65 หรือมาอยู่ที่ 6 พันล้านบาท โดยทั้ง 3 ธุรกิจใหม่เป็นบริษัทที่ AP ถือหุ้น 100%

ทั้งนี้ คาดว่ารายได้ของธุรกิจใหม่จะเริ่มเข้ามาจาก SEAC ในช่วงแรก เพราะเป็นการเปิดให้บริการศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาหลักสูตร โดยคาดว่าจะได้รับผลการตอบรับที่ดีจากผู้ที่สนใจ ส่วน VAARI และ CLAYMORE บริษัทมองไปถึงการขยายฐานลูกค้ามากกว่ารายได้ที่จะเข้ามา แต่ถือว่าเป็นการลงทุนที่สามารถต่อยอดการดำเนินงานของบริษัทและปรับตัวให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงได้

สำหรับการปรับตัวของบริษัทในครั้งนี้มองว่าเป็นการปรับตัวให้สอดคล้องกับยุดสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่ไม่ได้มองว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยจะถึงทางตันแล้ว เพราะบริษัทมองว่าอสังหาริมทรัพย์ไทยยังคงไปได้อีกไกล จากการลงทุนก่อสร้างรถไฟสายต่าง ๆ และตลาดในกรุงเทพฯยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมองว่าในช่วง 4-5 ปีข้างหน้า จะมีประชากรวัยทำงานที่มีความพร้อมในการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นอีกมากในประเทศ ซึ่งเป็นโอกาสของบริษัทในการเติบโตได้ต่อไป

"ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบเดิมคงจะทำไม่ได้ในยุคปัจจุบันอีกต่อไป จากปัจจัยต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปมาก ทำให้เรามองเห็นถึงการขยายขอบเขตคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยมากขึ้น จนทำให้เปลี่ยนวิสัยทัศน์ของ AP จากเดิมที่เน้นการเป็น "Space expert for living solution" มาเป็น "Provider of quality of life"...เราคาดหวังว่า ดอกผลที่เกิดขึ้นจากการขยายภาคธุรกิจ ภายใต้วิสัยทัศน์ AP World นี้ จะมีส่วนช่วยผลักดันรายได้รวมของเอพี ไทยแลนด์ให้เติบโตแบบดับเบิ้ล หรือตั้งเป้าสร้างรายได้รวมแตะหลัก 6 หมื่นล้านบาทภายในปี 65"นายอนุพงษ์ กล่าว

ด้านนายวิทการ จันวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กร และการสร้างสรรค์ ของ AP กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 62 เติบโต 5-10% จากปีก่อนทำยอดขาย 4.13 หมื่นล้านบาท โดยวางแผนเปิดโครงการใหม่ในปีนี้จำนวน 39 โครงการ มูลค่ารวม 5.68 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น โครงการแนวคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่า 2.24 หมื่นล้านบาท ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียมที่ร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่น 3 โครงการ มูลค่า 1.83 หมื่นล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมที่บริษัทพัฒนาเอง 2 โครงการ มูลค่า 4.1 พันล้านบาท

โครงการแนวราบ 34 โครงการ มูลค่ารวม 3.44 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์โฮม 19 โครงการ มูลค่า 1.67 หมื่นล้านบาท และโครงการบ้านเดี่ยว 15 โครงการ มูลค่า 1.76 หมื่นล้านบาท

ส่วนในไตรมาส 1/62 บริษัทจะเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ Aspire สุขุมวิท-อ่อนนุช, โครงการ Aspire อโศก และโครงการ RYTHM เอกมัย ESTATE ขณะที่เป้ารายได้รวมในปี 62 บริษัทตั้งเป้าเติบโต 15% จากปีก่อน โดยที่มีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ในสิ้นปีก่อนที่ 4.12 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนงบซื้อที่ดินในปี 62 บริษัทตั้งไว้ที่ 9.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ใช้ไป 8 พันล้านบาท ซึ่งจะรองรับการซื้อที่ดินมาไว้พัฒนาในปีต่อ ๆ ไป โดยโครงการใหม่ที่วางแผนเปิดในปีนี้บริษัทได้มีที่ดินรองรับไว้ทั้งหมดแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ