FPT ตั้งเป้ารายได้งวดปี 61/62 โต 15-20% ตามการเพิ่มพื้นที่เช่า-อัตราเช่า-ปรับขึ้นค่าเช่า

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 21, 2019 19:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.กมลกาญจน์ คงคาทอง หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์และการลงทุน บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้งวดปี 61/62 (1 ต.ค.61-30 ก.ย.62) จะเติบโต 15-20% จากปีก่อน โดยจะมาจากรายได้ค่าเช่าโรงงานและคลังสินค้า ซึ่งปีนี้บริษัทมีแผนเพิ่มพื้นที่เช่าคลังสินค้าที่ให้บริการแบบ Built-to-Suit อีก 1-1.2 แสนตารางเมตร จากปัจจุบันมีพื้นที่เช่าทั้งสิ้น 1.2 ล้านตารางเมตร และตั้งเป้าเพิ่มอัตราการเช่าพื้นที่โรงงานและ (Occupancy Rate) เป็น 80% จากปีก่อนอยู่ที่ 76% รวมถึงยังมีแผนปรับเพิ่มค่าเช่าในพื้นที่ไฮดีมานด์ หรือพื้นที่ที่มีความต้องการสูงเฉลี่ย 2%

บริษัทมีแผนพัฒนาที่ดินจำนวน 4,300 ไร่ หลังชนะประมูลที่ดินบนทำเลบางนา-ตราด กม.32 เพื่อนำมาพัฒนาเป็นเมืองอุตสาหกรรม (Township) คาดว่าจะเริ่มดำเนินการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวบางส่วนได้ตั้งแต่ปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าเป็นต้นไป อย่างไรก็ตามบริษัทมองว่าที่ดินดังกล่าวมีศักยภาพค่อนข้างสูงเนื่องจากอยู่บนทำเลที่ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิประมาณ 20 กิโลเมตร โดยยังอยู่ระหว่างศึกษาการพัฒนาโครงการ ซึ่งรูปแบบศูนย์กระจายสินค้าก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก

นอกจากนี้จะเริ่มก่อสร้างศูนย์ดาต้า เซอร์เตอร์ขนาดใหญ่ (Hyperscale Data Center) บนพื้นที่ 15 ไร่ ย่านรามคำแหง โดยจะเริ่มลงเสาเข็มได้ภายใน 1-2 เดือนนี้ ส่วนการจับมือกับพันธมิตร คือ สหไทย เทอร์มินอล เพื่อลงทุนพัฒนาและบริหารโครงการโลจิสติกส์ พาร์ค และศูนย์กระจายสินค้าบนพื้นที่กว่า 50 ไร่ ในเขตพื้นที่ศูนย์กลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปีนี้

น.ส.กมลกาญจน์ กล่าวว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณาขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (FTREIT) เพิ่มเติมอีก โดยอยู่ระหว่างรอดูการเติบโตของโรงงานและคลังสินค้า คาดว่าจะสามารถสรุปได้ในไตรมาส 3 งวดปี 61/62 เพื่อเพิ่มขนาดของกองให้เติบโตมากขึ้น จากในไตรมาส 1 งวดปี 61/62 บริษัทได้ขายสินทรัพย์เข้า FTREIT โดยนำโรงงานและคลังสินค้า ในพื้นที่จ.ชลบุรี สมุทรปราการ อยุธยา ปทุมธานี ปราจีนบุรี มูลค่ารวมกว่า 1,907 ล้านบาท

พร้อมกันนี้บริษัทก็อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 2-3 ราย เพื่อเข้าร่วมลงทุน (JV) ในธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกันและธุรกิจที่นอกเหนือจากที่บริษัทฯดำเนินการอยู่ เพื่อเข้ามาต่อยอดการเติบโตของธุรกิจเดิม คาดว่าจะเห็นความคืบหน้าในรายละเอียดได้ภายในปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ