นพ. ธนาธิป ศุภประดิษฐ์ รองประธานกรรมการ บมจ. ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายผลักดันรายได้ปี 62 ให้เติบโตกว่าปีก่อน เนื่องจากคาดว่ารายได้โรงพยาบาลหลักในประเทศ เช่น รพ.ธนบุรี รพ.ธนบุรี 2 และ รพ.ราษฎร์ยินดี จะยังคงเติบโตอย่างมั่นคง
อีกทั้งยังเตรียมรับรู้รายได้จากโรงพยาบาลแห่งใหม่ รพ.ธนบุรีบำรุงเมือง ซึ่งเป็นศูนย์ตรวจรักษาที่มีเทคโนโลยีทันสมัย หลังจากเปิดให้บริการแล้วในเดือน ม.ค.62
นอกจากนั้น บริษัทยังคาดว่าจะมีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดส่วนแรก (Active Living) ในโครงการ Jin Wellbeing County รังสิต ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่อาศัยพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเพื่อเจาะกลุ่มคนวัยเกษียณและผู้รักสุขภาพ โดยในช่วงกว่า 1 เดือนแรกของปีนี้ โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้แก่ลูกค้าแล้ว 13 ยูนิต และยังมียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (แบ็กล็อก) อีกกว่า 120 ยูนิต ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าในปีนี้จะมียอดขายห้องพักอาศัยในโครงการ Jin Wellbeing County เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 200 ยูนิต ซึ่งจะส่งผลดีต่อยอดรับรู้รายได้ในปีนี้ ขณะที่ รพ.ธนบุรี และ รพ.ธนบุรี 2 คาดว่าจะมีปริมาณคนไข้เพิ่มขึ้นจากการต่อยอดศูนย์ตรวจรักษาเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้
บริษัทยังมองโอกาสขยายธุรกิจรับบริหารจัดการและเป็นที่ปรึกษาโรงพยาบาลในต่างประเทศ หลังจากปีที่ผ่านมาได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) กับพันธมิตรทางธุรกิจใน สปป.ลาว เพื่อร่วมมือกัน ในโครงการ World Trade Center ใจกลางเมืองเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นเมกะโปรเจกต์แบบมิกซ์ยูสใหญ่ที่สุดใน สปป.ลาว
ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวม 7,094 ล้านบาท เติบโต 7.3% จากปีก่อน เนื่องจากธุรกิจโรงพยาบาลในประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้น มีการขยายธุรกิจรับบริหารศูนย์หัวใจเพื่อให้บริการที่ รพ.พัทลุง และเริ่มรับรู้รายได้จากการโอนห้องพักอาศัยในโครงการ Jin Wellbeing County เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 348 ล้านบาทชะลอตัวจากปีก่อนหน้า เนื่องจากรายได้จากธุรกิจรับเป็นที่ปรึกษาในต่างประเทศลดลง และมีค่าใช้จ่ายเพื่อเตรียมเปิด รพ.ธนบุรี บำรุงเมือง และโครงการ Jin Wellbeing County อีกทั้งยังรับรู้ผลขาดทุนจากการดำเนินงาน รพ. Ar Yu International Hospital ในเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์และ รพ. Welly Hospital ในเมืองเวยไห่ ประเทศจีน ที่ยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน
นพ.ธนาธิป กล่าวเพิ่มเติมว่า ธุรกิจรักษาพยาบาลในประเทศซึ่งเป็นธุรกิจหลักยังคงเติบโตได้ดี ทั้งรายได้และกำไร และยังมีแนวโน้มที่จะโตต่อไปอย่างมั่นคง แต่เนื่องจากบริษัทฯ อยู่ในช่วงการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจ หลายโครงการใหม่จึงมีต้นทุนและค่าใช้จ่ายสูง ส่งผลกระทบต่อกำไร อย่างไรก็ดี THG จะยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการเหล่านี้ให้ประสบความสำเร็จเพื่อสร้างรายได้ พร้อมทั้งมองหาโอกาสขยายธุรกิจ ตอบรับแนวโน้มสังคมผู้สูงอายุและการใส่ใจดูแลสุขภาพเพื่อต่อยอดการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัทฯ และส่งมอบผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น