ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดเช้าบวก 0.34 จุด แม้คลายกังวลข้อพิพาทการค้าจีน-สหรัฐฯ แต่หวั่นโบรกฯลดเป้ากำไรบจ.กดดันตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 4, 2019 12:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,641.78 จุด เพิ่มขึ้น 0.34 จุด (+0.02%) มูลค่าการซื้อขาย 22,686.43 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบจำกัด แม้คลายกังวลข้อพิพาททางการค้าสหรัฐฯ-จีน หลังมีความคืบหน้าที่ดีขึ้น แต่มีปัจจัยกดดันจากในประเทศ หลังกำไรบจ.ในไตรมาส 4/61 ต่ำกว่าคาด ซึ่งอาจทำให้โบรกฯปรับลดเป้ากำไรปีนี้ รวมถึงการขาดดุลการค้าของไทยในเดือนม.ค.ยังกดดันต่อ Fund Flow ไหลเข้าไทยน้อยกว่าประเทศอื่นในเอเชีย พร้อมมองดัชนีเคลื่อนไหวกรอบแคบต่อไปในการซื้อขายภาคบ่าย ในกรอบ 1,630-1,660 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,641.78 จุด เพิ่มขึ้น 0.34 จุด (+0.02%) มูลค่าการซื้อขาย 22,686.43 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งแดนบวกและลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,643.53 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ระดับ 1,636.48 จุด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด แม้ว่านักลงทุนส่วนใหญ่คลายกังวลปัจจัยในต่างประเทศ ภายหลังประเด็นการค้าสหรัฐฯ-จีนคืบหน้าในทิศทางเชิงบวก โดยมีการคาดการณ์ว่าผู้นำทั้งสองประเทศจะบรรลุข้อตกลงการค้าได้ในการประชุม 27 มี.ค.นี้

แต่ปัจจัยลบที่คอยกดดันบรรยากาศการลงทุน คือผลประกอบการไตรมาส 4/61 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทยโดยรวมที่รายงานกำไรอยู่ที่ 1.6 แสนล้านบาท ต่ำกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดมาก เพราะตามสถิติไม่ควรต่ำกว่า 2.5 แสนล้านบาท ทำให้ฝ่ายวิจัยฯอยู่ระหว่างทบทวนปรับลดประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ของบจ.ในปี 62 น่าจะเหลือไม่เกิน 110 บาท/หุ้น จากเดิม 112 บาท/หุ้น ทั้งนี้ การปรับลด EPS ส่งผลให้ P/E ของตลาดหุ้นไทยสูงขึ้น ดังนั้น ต้องระมัดระวังความเสี่ยงจากแรงขายระยะสั้นด้วย

ส่วนประเด็นการเมืองอาจมีกระแสผันผวนบ้าง แต่หากไม่ส่งผลกระทบต่อกำหนดการเลือกตั้ง ก็เชื่อว่าจะมีผลกระทบจำกัด

สำหรับทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยบ่ายนี้ ประเมินว่าจะแกว่งตัวในกรอบจำกัด เพราะยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้นบรรยากาศการลงทุนที่ชัดเจน โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 1,630-1,660 จุด

ด้านนายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า Sentiment ตลาดหุ้นไทยเริ่มต้นสัปดาห์นี้ แม้จะเริ่มดีขึ้น แต่ยังอยู่ในช่วงการสร้างฐานใหม่ แม้การเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯผ่อนคลายดีขึ้น ขณะที่แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯส่งสัญญาณอ่อนค่า เป็นผลให้ค่าเงินสกุลเอเชียแข็งค่า หนุนสินทรัพย์เสี่ยงในภูมิภาคเอเชีย แต่แนวโน้มค่าเงินบาท ยังไม่ได้แข็งค่าตามทิศทางเดียวกับสกุลเอเชียมากนัก เพราะดุลการค้าในเดือนมกราคมที่ผ่านมาขาดดุลกว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นปัจจัยกดดันต่อ Fund Flow ไหลเข้าไทยน้อยกว่าประเทศอื่นในเอเชีย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าความกังวลประเด็นดุลการค้าขาดดุลเป็นเพียงภาวะชั่วคราวเท่านั้น

ทั้งนี้ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหว SET INDEX มีแนวรับ 1,636-1,630 จุด และแนวต้าน 1,650-1,655 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,174.54 ล้านบาท ปิดที่ 48.50 บาท ลดลง 0.25 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,094.03 ล้านบาท ปิดที่ 121.50 บาท ลดลง 2.00 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 926.45 ล้านบาท ปิดที่ 71.25 บาท ลดลง 0.25 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 828.15 ล้านบาท ปิดที่ 66.75 บาท ลดลง 0.75 บาท

TOP มูลค่าการซื้อขาย 789.49 ล้านบาท ปิดที่ 69.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ