ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,635.30 จุด ลดลง 6.14 จุด (-0.37%) มูลค่าการซื้อขาย 45,025.41 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,643.53 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,632.83 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 408 หลักทรัพย์ ลดลง 973 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 417 หลักทรัพย์
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยไม่ได้ตอบรับการเจรจาการค้าสหรัฐฯและจีนที่มีความคืบหน้าทางบวกมากนัก โดยดัชนียังคงซึมตัวลงต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อน จากความกังวลต่อเงินทุนที่จะไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ไปยังตลาดหุ้นจีนมากขึ้นในอนาคต หลังจากที่ MSCI ซึ่งเป็นบริษัทจัดทำดัชนีระดับโลก จะเพิ่มน้ำหนักของหุ้นจีนเป็น 4 เท่าในการคำนวณดัชนีหุ้นโลกในปลายปีนี้ ส่งผลให้ Emerging Market ทุกตลาด Underperform
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังถูกกดดันจากการที่บริษัทจดทะเบียน ประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/61 ออกมาภาพรวมต่ำกว่าที่ตลาดประเมินไว้ ส่งผลให้โบรกเกอร์ทยอยปรับลดเป้ากำไรและราคาเป้าหมายในปีนี้ กดดันให้หุ้นที่มีผลประกอบการออกมาต่ำกว่าคาดถูกเทขายตั้งแต่ปลายสัปดาห์ก่อนและต่อเนื่องในวันนี้ อย่างหุ้น STA , AMATA เป็นต้น
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ คาดว่าดัชนีจะยังแกว่งตัวสร้างฐานประคองตัวระยะเวลาหนึ่ง ขณะที่ภาพรวมปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ มีทิศทางดีขึ้น ทั้งจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน, นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีทิศทางผ่อนคลายลง และการเลือกตั้งในประเทศที่น่าจะมีทิศทางเดินหน้าอย่างมีเสถียรภาพ และการทยอยจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียน โดยมองแนวรับบริเวณ 1,630 และ 1,620 จุด ส่วนแนวต้าน อยู่ที่ 1,646 และ 1,648 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,075.75 ล้านบาท ปิดที่ 48.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,041.97 ล้านบาท ปิดที่ 121.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,703.57 ล้านบาท ปิดที่ 71.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,698.79 ล้านบาท ปิดที่ 66.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,298.71 ล้านบาท ปิดที่ 23.60 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง