TMB ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าใหม่ ME by TMB ปีนี้เพิ่มกว่า 20% รุกตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ดิจิทัล

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 6, 2019 16:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ME by TMB ผลิตภัณฑ์เงินฝากรูปแบบดิจิทัลแบงก์กิ้งในเครือธนาคารทหารไทย (TMB) เปิดเผยว่า ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าของ ME by TMB ในปี 62 เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 20% จากสิ้นปี 61 ที่มีจำนวนลูกค้ามากกว่า 360,000 บัญชี ในขณะที่จำนวนเงินฝากของ ME by TMB ตั้งเป้าขยายเพิ่มขึ้นเกือบ 20% ในปีนี้ เพิ่มขึ้นมากกว่าสิ้นปีก่อนที่เงินฝากของ ME by TMB ขยายตัวได้ 10% ซึ่งมีฐานเงินฝากของ ME by TMB ในสิ้นปีก่อนราว 5 หมื่นล้านบาท โดยในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ME by TMB ถือว่าเป็นผู้นำทางด้านดิจิทัลแบงก์ในประเทศ ที่ให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป 4.5 เท่า หรืออยู่ที่ 1.7% ต่อปี โดยที่ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมาฐานลูกค้าโตเฉลี่ย 20% ต่อปี และฐานเงินฝากมีการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันฐานลูกค้าของ ME by TMB จำนวน 360,000 บัญชี แบ่งเป็นสัดส่วนของลูกค้าในกรุงเทพฯ 73% และอีก 27% เป็นฐานลูกค้าในต่างจังหวัด โดยส่วนใหญ่ 51% เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีอายุในช่วง 18-34% เป็นลูกค้าหลักที่ใช้บริการของ ME by TMB และมีจำนวนลูกค้าสัดส่วน 70% ของลูกค้าทั้งหมดใช้บริการ ME by TMB ผ่านแอพพลิเคชั่น ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงและตอกย้ำความเป็นอันดับ 1 ของการเป็นดิจิทัลแบงก์กิ้งอย่างเต็มตัวของ ME by TMB ในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา

สำหรับกลยุทธ์ของ ME by TMB ในปี 62 ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านกลยุทธ์ Personalize โดยวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ พร้อมนำเสนอบริการแบบครบวงจร เพื่อให้ลูกค้าได้รับ Digital Experience ผ่านกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่ม ได้แก่ ME Love You คือ กลุ่มลูกค้าที่ใช้งาน ME เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง มีความเคลื่อนไหวทางบัญชี หรือฝากมากกว่าถอน และรวมถึงกลุ่มที่มีผลิตภัณฑ์ ME ครบทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ โดยจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการ พร้อมด้วยสิทธิพิเศษ (Privilege) ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่มนี้ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ME และก่อให้เกิดการบอกต่อในอนาคต

ME Miss You คือ กลุ่มลูกค้าที่ขาดการติดต่อกับ ME โดยจะกระตุ้นให้กลับมาเคลื่อนไหวบัญชี พร้อมทั้งนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆที่จะทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้ใช้งานบัญชีสะดวกสบายยิ่งขึ้น แล้วทำให้กลับมาใช้ ME เป็นหนึ่งในดิจิทัลไลฟ์สไตล์ของลูกค้า และ

ME Need You คือ กลุ่มลูกค้าใหม่ ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าอยู่ที่ 20% ของลูกค้าปัจจุบัน โดยจะเน้นไปที่กลุ่ม Gen D และ Gig worker หรือฟรีแลนซ์ เนื่องจากผลวิจัยพบว่า พฤติกรรมของ Gen D เป็นคนที่มีประสบการณ์กับดิจิทัลเป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่ชอบการใช้โซเชียลในชีวิตประจำวัน และยังมี 2 เรื่องที่ Gen D ให้ความสำคัญ ได้แก่ เรื่องการบริหารการใช้จ่ายเพื่อการออม (Manage Spending for Saving) และการบริหารการลงทุน (Manage Investment Portfolio per Risk Appetite)

นอกจากนี้ปัจจุบัน ME by TMB กำลังอยู่ใน Sand box เฟส 2 ของการพัฒนาไปสู่ Full EKYC ที่สามารถเปิดบัญชีได้ด้วยบัตรประชาชน และสมาร์ทโฟนทั้ง Android และ iOS ซึ่งคาดว่าจะสามารถใช้งานได้ภายในไตรมาส 2/62 และจะทำให้ทุกคนสามารถเป็นลูกค้า ME ผ่านแอพพลิเคชั่นเดียวได้แบบ real time ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่ต้องมายืนยันตัวตนที่สาขาอีกต่อไป พร้อมกับการให้ความมั่นใจว่า ME by TMB จะเป็นตัวช่วยทำอะไรให้ลูกค้าได้มากขึ้น เช่น การเก็บเงินได้มากขึ้นด้วยฟีเจอร์ Balance sweep ของบัญชี ME MOVE ช่วยปัดเงินที่ยังไม่ใช้ไปรับดอกเบี้ยสูงกับ ME SAVE การใช้จ่ายได้สะดวกขึ้น ด้วยฟีเจอร์ QR payment ของบัญชี ME MOVE

อีกทั้งการได้ผลตอบแทนที่มากขึ้นผ่านผลิตภัณฑ์ใหม่ บัญชีเพื่อการลงทุนที่ได้ผลตอบสูง เพื่อทำให้เงินของคุณงอกเงย รวมทั้งการเก็บเงินพร้อมความคุ้มครองที่มากขึ้น กับ ME SURE ซื้อประกันผ่านแอพพลิเคชั่นพร้อมความคุ้มครองทันที และผลตอบแทนที่ได้รับคืนเข้าบัญชี ME SAVE เพื่อรับดอกเบี้ยทำให้เงินงอกเงย ตลอดจนช่วยทำให้ลูกค้าไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น ด้วยฟีเจอร์และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ใช้งานได้ง่ายขึ้น เพื่อให้ลูกค้า ME ได้สัมผัส Digital Experience แบบเต็มรูปแบบ "กลยุทธ์ในปีนี้จะเน้นสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้ลูกค้าได้เรียนรู้เกี่ยวกับ ME by TMB มากขึ้น และนำข้อมูลการใช้บริการของลูกค้ามาพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น เพื่อตอบโจทย์สิ่งที่ลูกค้าต้องการ หรือ Personalize และในที่สุดจะก้าวสู่ Digital Experience ซึ่งจะศึกษาข้อมูลจากพฤติกรรมของลูกค้า และเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าอย่างตรงจุดมากขึ้น โดยไม่ต้องมีพื้นฐานของสาขาเข้ามาเกี่ยวข้องเลย และเราเชื่อว่าการมีผลิตภัณฑ์เงินฝากดิจิทัลใหม่ๆนำเสนอออกมา จะทำให้ตลาดดิจิทัลแบงก์กิ้งของเมืองไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น และเป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้ใช้ดิจิทัลอย่างแท้จริง"นายเบญจรงค์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ