SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,634.03 จุด เพิ่มขึ้น 0.82 จุด (+0.05%) มูลค่าการซื้อขาย 16,429.72 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบ บวกลบสลับกัน แต่ภาพรวมยังอยู่ในเชิงลบตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่กังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากที่ ECB ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนในปีนี้ และการปรับลดลงของตัวเลขส่งออกของจีนในเดือนก.พ. ขณะที่ตลาดตอบรับปัจจัยการเมืองในประเทศที่มีความชัดเจนไปแล้ว และยังขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุน ทำให้คาดว่าช่วงบ่ายดัชนีมีโอกาสที่จะปิดตัวในแดนลบ พร้อมมองแนวรับ 1,625 และแนวต้าน 1,640 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,634.03 จุด เพิ่มขึ้น 0.82 จุด (+0.05%) มูลค่าการซื้อขาย 16,429.72 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,637.46 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,629.85 จุด
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยรอบเช้า แม้จะมีแรงซื้อสลับเข้ามาบ้าง แต่บรรยากาศการลงทุนโดยรวมยังคงแกว่งตัวในทิศทางเชิงลบ ตามตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่อาจจะชะลอตัวในระยะถัดไป ภายหลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกมาปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนในปีนี้ สู่ระดับ 1.1% จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือน ธ.ค.ปีที่แล้วว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 1.7%
เช่นเดียวกับที่ทางการจีน ได้รายงานส่งออกเดือนก.พ.ร่วงลง 20.7% เมื่อเทียบเป็นรายปีสู่ระดับ 1.3524 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับปัจจัยทางการเมือง ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) พร้อมทั้งตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรค เชื่อว่าประเด็นดังกล่าวตลาดฯได้ตอบรับไปแล้ว ซึ่งตลาดฯจะกลับมาให้น้ำหนักทางการเมืองอีกครั้งในวันที่ 24 มี.ค.นี้ ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเป็นอย่างไร
"ตลาดหุ้นไทยยังขาดปัจจัยบวกใหม่สนับสนุน ทำให้เม็ดเงินต่างชาติหันเหไปสนใจลงทุนในตลาดหุ้นอื่นมากกว่า เช่น ฟิลิปปินส์ ,อินโดนีเซีย เป็นต้น ทำให้แนวโน้มการขายสุทธิของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ น่าจะยังคงมีให้เห็นต่อเนื่องในช่วงนี้ นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คอยกดดันการปรับขึ้นของ SET INDEX ให้มีกรอบจำกัด"นายมงคล กล่าว
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายวันนี้คาดแกว่งตัว และมีโอกาสปิดทำการในแดนลบ เนื่องจากความกังวลเศรษฐกิจโลกคอยปกคลุมบรรยากาศการลงทุนต่อเนื่องจากช่วงเช้า ทั้งนี้ มองว่าหุ้นขนาดใหญ่ที่เคลื่อนไหวตามภาวะตลาดฯ มีความเสี่ยงที่อาจโดนแรงขายสลับออกมา โดยกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ ถือหุ้นต่อไปก่อน แต่ถ้าสถานการณ์ยังไม่ดี หรือ SET INDEX ปรับตัวหลุดต่ำกว่า 1,620 จุดแนะนำขายหุ้นออก เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนในระยะสั้น พร้อมมองแนวรับ 1,625 และแนวต้าน 1,640 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 808.63 ล้านบาท ปิดที่ 193.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 721.21 ล้านบาท ปิดที่ 47.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BTS มูลค่าการซื้อขาย 640.40 ล้านบาท ปิดที่ 10.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
BEM มูลค่าการซื้อขาย 533.90 ล้านบาท ปิดที่ 10.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 513.77 ล้านบาท ปิดที่ 68.50 บาท ลดลง 0.75 บาท