(เพิ่มเติม) RICHY เล็งจับมือพันธมิตรญี่ปุ่นทำ senior care ดันเป้ารายได้แตะ 7 พันลบ.ปี 64 , เปิดคอนโดฯย่านเอกมัยหนุนผลงานปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 12, 2019 17:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ริชี่ เพลซ 2002 (RICHY) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมลงทุนธุรกิจ Senior Care ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงในด้านการให้บริการผู้สูงอายุของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในเดือนมี.ค.นี้ทางพันธมิตรญี่ปุ่นจะเดินทางมาร่วมวางแผนการดำเนินงานในธุรกิจร่วมกับบริษัท เบื้องต้นธุรกิจจะเป็นลักษณะของการให้บริการ และการให้เช่า ซึ่งไม่ได้เป็นการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมสำหรับผู้สูงอายุมาขายและมีการให้บริการอย่างเช่นบริษัทอื่น ๆ โดยโครงการ Senior Care ของบริษัทที่จะเปิดบริการภายในปลายปีนี้มึมูลค่า 500 ล้านบาท

สำหรับเป้าหมายการดำเนินงาน บริษัทวางเป้าหมายรายได้แตะระดับ 7 พันล้านบาทในปี 64 จากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ที่มีอยู่ 3.8 พันล้านบาท จะรองรับการรับรู้รายได้ไปจนถึงปี 64 ซึ่งยังไม่รวมกับโครงการใหม่ที่กำลังจะเปิดขายภายในปี 62 อีกทั้งการขยายฐานลูกค้าต่างชาติไปในประเทศต่าง ๆ มากขึ้น ด้วยการนำโครงการไปโรดโชว์ตามงานในประเทศต่าง ๆ และการขายผ่านเอเจนซี่ต่างชาติ ก็จะช่วยเพิ่มสัดส่วนยอดขายจากลูกค้าต่างชาติเป็น 25-30% จาก 20% ในปัจจุบัน

ทั้งนี้ บริษัทมองว่ากลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงและเป็นกลุ่มที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง เพราะที่ผ่านมาการขายให้กับลูกค้าชาวต่างชาติ สามารถเก็บเงินดาวน์ 30% และลูกค้าต่างชาติก็มีการโอนครบทั้งหมด รวมถึงยังเป็นการกระจายความเสี่ยง หลังจากที่กลุ่มลูกค้าชาวไทยเผชิญกับปัจจัยกดดันของการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยใหม่ (LTV) ใหม่ที่เข้มงวดมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มลูกค้าชาวไทยยังคงเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท

นางอาภา กล่าวอีกว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 5 พันล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่ทำยอดขายได้กว่า 3 พันล้านบาท โดยบริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่รวม 5 โครงการ มูลค่ารวม 9.18 พันล้านบาท ได้แก่ โครงการ เดอะริช เอกมัย มูลค่า 3.4 พันล้านบาท โครงการ เดอะริช พระราม 9 มูลค่า 2.5 พันล้านบาท โครงการ เดอะริช Point วุฒธากาศ มูลค่า 1.28 พันล้านบาท โครงการ Senior Care มูลค่า 500 ล้านบาท และอีก 1 โครงการ ยังอยู่ระหว่างพิจารณารูปแบบโครงการ มูลค่าราว 1.5 พันล้านบาท

ส่วนรายได้ในปี 62 ตั้งเป้าไว้ที่ 2.6 พันล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้ 2.7 พันล้านบาทเล็กน้อย จากปัจจัยกดดันของเกณฑ์ LTV ใหม่ ที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เม.ย.นี้ ซึ่งมองว่ากระทบต่อรายได้ของบริษัทราว 4-6% ในขณะที่ปัจจุบันบริษัทมี Backlog รวมอยู่ที่ 3.8 พันล้านบาท จะทยอยรับรู้ในปี 62 ราว 1.9 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ถึงปี 64 และยังมีสต็อกพร้อมโอนและที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างรอการขายอีกราว 8.2 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทจะพยายามทยอยระบายออกไป เพื่อสร้างรายได้กลับมาให้กับบริษัท

สำหรับในวันนี้บริษัทเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ "เดอะริช เอกมัย"มูลค่าโครงการกว่า 3.4 พันล้านบาท ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสเอกมัย เชื่อว่าจะช่วยหนุนผลงานในปีนี้ให้ทำสถิติสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากโครงการระดับไฮเอนด์เป็นตลาดที่ยังมีความเชื่อมั่นในช่วงที่ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีความเปราะบางด้วยปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง

เดอะริช เอกมัย ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 63 พื้นที่โครงการรวม 2 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียม High Rise สูง 37 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวม 487 ยูนิต ตั้งราคาขายเริ่มต้น 4.79 ล้านบาท/ยูนิต กลุ่มเป้าหมายจะเน้นเจาะลูกค้าระดับบนทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เป็นวัยทำงาน และรวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อเพื่อการลงทุนด้วย

"มั่นใจว่าโครงการ "เดอะริช เอกมัย" จะได้รับความสนใจจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี เพราะอยู่ในทำเลที่ดี สะดวกสบายเหมาะกับสังคมเมืองในยุคปัจจุบัน ซึ่งเมื่อเปิดพรีเซลแล้วคาดว่าจะเป็นอีกโครงการที่ประสบความสำเร็จและช่วยสนับสนุนให้บริษัทมีรายได้เติบโตมั่นคงอย่างยั่งยืน"นางอาภา กล่าว

นางอาภา กล่าวว่า สำหรับโครงการ เดอะริช เอกมัย บริษัทจะเตรียมเปิดการขายรอบ VVIP ในวันที่ 30 มี.ค.นี้ คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า และจะเปิดขายทั่วไปอีกครั้งในช่วงสิ้นเดือนเม.ย. 62 โดยตั้งเป้าทำยอดขายได้ 70% จนถึงสิ้นปี 62 และคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ภายในปี 63 โดยโครงการจะเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 4/62 และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 65 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมยื่นขอใบอนุญาตวิเคราะห์ผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม (EIA)

ทั้งนี้ ข้อมูลจากฝ่ายวิจัย CBRE พบว่าภาพใหญ่ในทำเลสุขุมวิทยังคงเป็นโซนที่เป็นที่นิยมที่สุดในกรุงเทพฯ โดยในปี 61 มีคอนโดมิเนียมเปิดตัวกว่า 6,500 ยูนิต จาก 21 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นโครงการระดับไฮเอนด์และลักซ์ชัวรี่ ราคาขายเฉลี่ย 260,000 บาท/ตารางเมตรในโครงการที่เปิดใหม่ ตลาดคอนโดมิเนียมในเส้นสุขุมวิทนั้นนับว่ามีการขยายตัวออกไปตามเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอสอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน ตลาดคอนโดมิเนียมในย่านเอกมัยมีจำนวนยูนิตจากโครงการที่เปิดใหม่และกำลังก่อสร้างอยู่ประมาณ 3,800 ยูนิต จาก 8 โครงการ เป็นรองเพียงแค่โซนทองหล่อ และขายไปแล้วประมาณ 65% โดยโซนเอกมัยได้รับความสนใจมากขึ้นเนื่องจากพื้นที่ในโซนทองหล่อเริ่มเหลือน้อยและมีราคาแพง โดยราคาเฉลี่ยในโซนทองหล่ออยู่ที่ประมาณ 300,000 บาทต่อตารางเมตร

ประกอบกับเอกมัยเป็นถนนเส้นสำคัญใจกลางเมืองที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิทตอนกลาง ใกล้ย่านพร้อมพงษ์ ทองหล่อและอโศก และอีกด้านหนึ่งของถนนเส้นนี้ยังเชื่อมต่อถนนเพชรบุรีตัดใหม่ และถนนพระรามเก้า และด้วยราคาคอนโดมิเนียมในเอกมัยยังถือว่าไม่แพงหากเทียบกับพื้นที่ใกล้เคียงเช่นทองหล่อ

โครงการอสังหาริมทรัพย์ในเอกมัยมีราคาเฉลี่ยอยู่ประมาณ 185,000 บาทต่อตารางเมตร ทำให้ทำเลเอกมัยเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ในเมือง ซึ่งเป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ใจกลางสุขุมวิทเพียงไม่ถึง 500 เมตร มีการพัฒนาโครงการอาคารสำนักงานเกรด A และศูนย์การค้าเพิ่มขึ้น ทำให้เอกมัยในปัจจุบันมีความหลากหลายและครบครันมากกว่าแต่ก่อน

นางอาภา กล่าวว่า หากพิจารณาตามอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาคอนโดมิเนียมในตลาด คาดว่าอีกไม่นานราคาเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในเอกมัยจะสูงกว่า 200,000 บาท/ตารางเมตรอย่างแน่นอน ราคาที่"เดอะริช เอกมัย"เปิดตัวออกมานั้นจึงเป็นราคาที่เหมาะสมมากสำหรับโซนสุขุมวิท และทำเลที่ตั้งอยู่ในช่วงเอกมัยตอนต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ