(เพิ่มเติม) CVD ปรับโมเดลธุรกิจใหม่รุกผลิตรายการ-ออร์กาไนซ์ ลดผลิตหนังแผ่นเหลือ10%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 28, 2008 13:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นางแคทลีน มาลีนนท์ กิจโอธาน กรรมการบริหาร บมจ.ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (CVD) ประกาศปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจของบริษัทจากธุรกิจผลิตหนังแผ่นที่เป็นธุรกิจหลักมารุกธุรกิจรับผลิตรายการผลิตละคร และงานออการ์ไนเซอร์ ผ่าน 2 บริษัทในเครือ คือ CVD Production และ CVD Organizer 
นางแคทลีน มั่นใจว่าโมเดลธุรกิจใหม่มีความสามารถสร้างรายได้ดีกว่าธุรกิจเดิม คือ การได้ลิขสิทธิ์ผลิตรายการและละครลงแผ่น ขณะที่ธุรกิจหลักเดิมจะลดขนาดไปเป็น Business unit ที่จะมีสัดส่วนรายได้ไม่ถึง 10% ของรายได้รวม เนื่องจากมองว่าธุรกิจใหม่ที่หันมาจับมีโอกาสเติบโตมากกว่าธุรกิจเดิมที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
"ธุรกิจเดิมเราต้องไปขอลิขสิทธิ์ละคร ภาพยนตร์จากคนอื่นมาทำ แต่ธุรกิจใหม่ CVD จะเป็นเจ้าของสามารถนำมาใช้ต่อยอดรายได้ได้ตลอด
สำหรับการผลิตรายการโทรทัศน์ของ CVD Production ประเดิมรายการแรก คือ ละคร"มหาชนชาวแฟลต" และรายการเกมส์โชว์ "44-21-4-GAME"เกี่ยวกับการใช้ภาษาไทย
ขณะที่งานด้านออร์กาไนซ์ของ CVD Organizer คาดว่าจะเริ่มเปิดตัวอีเวนต์ประมาณไตรมาส 1/51 และมีแผนจะจัดอีเวนต์ทุกๆ ไตรมาส ๆ ละ 1 อีเวนต์เป็นอย่างน้อย
"ในปีนี้คงจะยังไม่มีการแตกธุรกิจใหม่เพิ่มเติมไปจากวันนี้ และมั่นใจว่าธุรกิจใหม่จะมีความสามารถทำรายได้สูง เพราะเป็นธุรกิจที่เรามองแล้วว่ามีอนาคต ถึงขนาดมีการปรับโครงสร้างองค์การ ลดคน ลดค่าใช้จ่ายเพื่อนำมาสร้างทีมให้เหมาะกับธุรกิจใหม่" นางเคทลีน กล่าว
ปัจจุบันนางแคทลีน ถือหุ้น 17.6% ใน CVD และหากรวมกับบมจ. บีอีซี เวิลด์ (BEC) และตระกูลมาลีนนท์ รวมถือหุ้นรวมเกือบ 40%
นางแคทลีน กล่าวว่า ปัจจุบัน CVD มีกระแสเงินสด 400 ล้านบาท เชื่อว่าจะสามารถสนับสนุนการดำเนินธุรกิจใหม่ได้เพียงพอ ซึ่งไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนแต่อย่างใด
นางแคทลีน ยังแสดงความคิดเห็นต่อรัฐบาลใหม่ว่า เชื่อว่ามุมมองด้านการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศจะมีความมั่นใจ และกล้าลงทุนมากขึ้น และน่าจะส่งผลให้ภาพรวมของเศรษฐกิจของประเทศดีกว่าปีที่ผ่านมา และในส่วนของ CVD เอง ก็มั่นใจว่าภาพรวมปี 51 จะดีกว่าปี 50 แต่ในส่วนของรายได้หรือ Topline คงจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป
"งบปี 50 คงออกมาไม่ดีนัก"นางแคทลีน กล่าว
งวด 9 เดือน ปี 50 CVD ขาดทุนสุทธิ 21.33 ล้านบาท
ส่วนการขายเครื่องจักรออกไปในช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมานั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องการตัดค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายต่างๆก่อนบันทึกเป็นรายได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ