โบรกฯเชียร์"ซื้อ"BCH มองกำไรปีนี้โต 14-19% รับผลบวกลูกค้าประกันสังคมเพิ่ม-เปิดศูนย์เฉพาะทางหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 18, 2019 14:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้นบมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) หลังมองแนวโน้มกำไรปีนี้เติบโต 14-19% จากปีก่อน ตามผลประกอบการที่ดีทั้งในส่วนของกลุ่มลูกค้าประกันสังคมและกลุ่มลูกค้าเงินสด โดยในส่วนลูกค้าประกันสังคมมีจำนวนผู้ประกันตนเพิ่มขึ้นราว 9% ประกอบกับหมดผลกระทบจากโครงการประกันสังคมที่มีการปรับวิธีการชำระเงิน ขณะที่กลุ่มลูกค้าเงินสดคาดว่าจะเติบโตได้ดีต่อเนื่องจากโรงพยาบาลในเครือและการเปิดศูนย์เฉพาะทางต่าง ๆ โดยมองว่าการเปิดศูนย์แผลเบาหวานในปี 61 จะส่งผลบวกมายังปีนี้ และยังมีแผนการเปิดศูนย์เด็กหลอดแก้ว (IVF) ในช่วงครึ่งหลังของปี 62 ด้วย

สำหรับประเด็นผลกระทบเรื่องการควบคุมค่ารักษาพยาบาลและค่ายานั้น เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ และการเปิดโรงพยาบาลใหม่ไม่มากในปีนี้ ทำให้จะมีผลกระทบต่อต้นทุนของ BCH ไม่มากเช่นกัน โดย BCH มีแผนการทยอยเปิดให้บริการโรงพยาบาลใหม่ในปีช่วง 63-64

ราคาหุ้น BCH พักเที่ยงอยู่ที่ 16.20 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 1.82% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยลดลง 0.49%

          โบรกเกอร์                       คำแนะนำ                    ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบีฯ                   ซื้อ                             19.30
          เคที ซีมิโก้                         ซื้อ                             21.50
          ฟินันเซีย ไซรัส                      ซื้อ                             21.00
          เอเชีย เวลท์                       ซื้อ                             20.60
          เคทีบี (ประเทศไทย)                 ซื้อ                             22.00
          แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์                   ซื้อ                             21.00
          เคจีไอ (ประเทศไทย)                ซื้อ                             21.50
          หยวนต้า (ประเทศไทย)               ซื้อ                             23.20
          ทรีนีตี้                             ซื้อ                             21.50
          บัวหลวง                           ซื้อ                             22.00

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มภาพรวมธุรกิจปี 62 ของ BCH มองว่าผลประกอบการจะสามารถเติบโตได้ดี โดยประเมินกำไรทั้งปีเติบโตราว 14% จากปีก่อน ซึ่งปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากจำนวนผู้ประกันตนที่เพิ่มขึ้นราว 9% จากปีก่อนหลังได้โควตาเพิ่ม และการบันทึกบัญชีส่วนค่าภาระเสี่ยงที่กลับมาสู่ระดับปกติ หลังจากในไตรมาสที่ 4/61 ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนวิธีจ่ายเงินของสำนักงานประกันสังคมในส่วนค่าภาระเสี่ยง ทำให้การบันทึกรายได้ส่วนเพิ่มลดลงอย่างมีนัยยะ แต่จะเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราวเท่านั้น และจะไม่เกิดขึ้นอีกในปีนี้

สำหรับโรงพยาบาลเวิลด์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ (WMC) คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรายได้จากลูกค้าเงินสด โดยในปีที่ผ่านมา BCH ได้มัการเปิดศูนย์แผลเบาเหวานที่เท้า ทำให้รายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดและเชื่อว่าจะได้รับอานิสงส์เชิงบวกมาถึงปีนี้ด้วย พร้อมกันนี้ยังมีแผนการเปิดให้บริการศูนย์ IVF ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการได้รับแรงหนุนในช่วงครึ่งหลังของปี 62 ด้วย

อย่างไรก็ดี มองว่าการเปิดให้บริการโรงพยาบาลใหม่จะไม่กระทบต่อต้นทุนของ BCH มากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่จะทยอยเปิดในช่วงปี 63-64 ขณะที่ประเด็นการคุมค่ายาของภาครัฐมองว่าทำได้ค่อนข้างยากในทางปฏิบัติและอาจติดขัดเรื่องประเด็นกฎหมาย

ด้าน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ดีอีกปีของ BCH จากรายได้เติบโตทั้งในส่วนประกันสังคมและคนไข้เงินสด โดยรายได้ประกันสังคมเติบโตจากจำนวนผู้ประกันตนเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะได้จำนวนผู้ประกันตนเพิ่มขึ้น 80,000 ราย เป็น 880,000 ราย ส่วนรายได้คนไข้เงินสดเติบโตจากการอัพเกรดโรงพยาบาลในเครือ และคาดว่า WMC จะสามารถมีรายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง จากการทำการตลาดต่างประเทศและจะเปิดศูนย์ IVF ในเดือน ก.ค.62

อีกทั้งการเปิดโรงพยาบาลใหม่ปีนี้มีไม่มากทำให้ค่าเสื่อมราคาและต้นทุนบุคลากรเพิ่มขึ้นไม่มาก นอกจากนี้มีการเลื่อนเปิดโรงพยาบาลจากปี 63 ไปเป็นต้นปี 64 จำนวน 2 แห่ง คือโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ปราจีนบุรี (116 เตียง) และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนลเวียงจันทน์ (100 เตียง) ทำให้ปีนี้จึงเปิดแค่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์สระแก้ว จำนวน 59 เตียง เพียง 1 แห่ง

ด้านบทวิเคราะห์บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ BCH ในปี 62 ที่คาดว่าจะเติบโตดีต่อเนื่อง และโดดเด่นสุดในกลุ่มโรงพยาบาล จากฐานกลุ่มลูกค้าเงินสดและกลุ่มประกันสังคมที่เพิ่มขึ้น และล่าสุดถึงต้นเดือน มี.ค. BCH ขอโควตาผู้ประกันตนเพิ่ม 9% นอกจากนี้ BCH ยังไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ และรายได้จากทั้งกลุ่มเงินสดและประกันสังคมที่เติบโตดีต่อเนื่อง จะผลักดันให้กำไรปกติขยายตัวอีก 19% ในปีนี้

ส่วนประเด็นลบเรื่องการควบคุมราคายามองว่าคลี่คลายไปในทางบวก คาดว่าจะไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งกรณีดังกล่าวยังได้สะท้อนไปในราคาหุ้นแล้ว

โดยแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 1/62 จะพลิกกลับมาเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอีกครั้ง หลังจากที่ในไตรมาส 4/61 ได้รับผลกระทบจากโครงการประกันสังคมที่มีการปรับเทอมการชำระเงิน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ