PORT คาดรายได้ปีนี้โต 10% จากปีก่อน จากทุกธุรกิจโตต่อเนื่อง-ตั้งงบลงทุน 300 ลบ.ขยายท่าเรือ Feeder สร้างคลังสินค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 22, 2019 18:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางเสาวคุณ ครุจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สหไทย เทอร์มินอล (PORT) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,579.26 ล้านบาท เป็นไปตามการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ บริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์ครบวงจร, บริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางบก, บริการพื้นที่จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์และคลังสินค้า และบริการที่เกี่ยวข้องอื่นๆ

ทั้งนี้ ธุรกิจบริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์ครบวงจร โดยท่าเทียบเรือสินค้าชายฝั่ง หรือ Bangkok Barge Terminal (BBT) ปีนี้วางเป้าเพิ่มปริมาณผู้ใช้บริการขนส่งตู้สินค้า และเพิ่มสัดส่วนตู้ขาเข้า จากปีก่อนอยู่ที่ 1.6 แสนทีอียู เป็น 1.8-2 แสนทีอียู ในปีนี้ ส่วนการให้บริการพื้นที่จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์และคลังสินค้า (Bangkok Container depot Service :BCDS) ปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่ให้บริการเป็น 3.5 แสนทีอียู จากเดิมอยู่ที่ 1.8 แสนทีอียู

นอกจากนี้ วางงบลงทุนไว้ที่ 300 ล้านบาท โดยจะใช้ลงทุนในบริษัท บางกอก ริเวอร์ เทอร์มินอล จำกัด (BRT) ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน 38% กับกลุ่มน้ำตาลมิตรผล และบริษัท APM Terminals จำกัด ในการขยายท่าเทียบเรือ สำหรับเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Feeder) คาดใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 18 เดือน และน่าจะเปิดให้บริการได้ในต้นปี 64 และใช้ลงทุนในบริษัท บางกอก โลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด (BLP) ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 25% ร่วมกับ บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (FPT) ในการสร้างคลังสินค้าแบบบิวท์ทูสูท เพิ่มเป็น 50,000 ตารางเมตร จากเดิมอยู่ที่ 38,000 ตารางเมตร คาดเริ่มให้บริการได้ในไตรมาส 3/63

"เป้าหมายของเราคือ การทำโลจิสติกส์ให้ครบวงจร รองรับการนำเข้าและส่งออกโดยตรง ซึ่งสิ่งที่ตั้งใจทำการเชื่อมต่อทางน้ำและทางรถ โดยทางน้ำเราเริ่มดำเนินการแล้วจากการเชื่อมท่าเรือแหลมฉบังมาที่สหทัย และอยู่ระหว่างเชื่อมท่าเรือจากอยุธยามาที่สหทัยเพิ่ม ส่วนทางรถ เราเป็นทำเนียบท่าเรือขนส่ง แต่เรายังไม่สามารถเชื่อมทางเรือแหลมฉบังมายังสหทัยได้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างขออนุญาตกับทางกรมศุลกากร ในการเชื่อมต่อทางรถ เพื่อซัพพอร์ตการทำธุรกรรมการขนส่ง และลดต้นทุนให้กับลูกค้า คาดว่าจะได้รับการอนุมัติในไตรมาส 2/62 ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งแบบเร่งด่วนได้"

ขณะที่บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาย้ายเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้น เนื่องจากปัจจุบันไม่มีนักลงทุนขายหุ้นออกไป ส่งผลต่อราคาหุ้นของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม ยังมีนักลงทุนสถาบันให้ความสนใจเข้าถือหุ้นอยู่จำนวนมาก

ด้านผลประกอบการไตรมาส 1/62 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า เป็นไปตามธุรกิจการให้บริการพื้นที่จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์และคลังสินค้ามีวอลุ่มเพิ่มขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ