(เพิ่มเติม) WHA เปิดตัวนิคมฯแห่งที่ 10 WHA ESIE3 พร้อมเซ็นลูกค้ารายแรกจากจีน 280 ไร่ เริ่มผลิตกลางปี 63

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 1, 2019 14:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ลงนามในสัญญาซื้อขายที่ดินรายแรกในนิคมอุตสาหกรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 (WHA ESIE 3) ซึ่งเป็นนิคมใหม่แห่งที่ 10 ของกลุ่ม WHA ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดย บริษัท พรินซ์ เฉิงซาน ไทร์ (ประเทศไทย) ในเครือเฉิงชาน กรุป จากประเทศจีน จะใช้ที่ดินราว 280 ไร่ (44.8 เฮกตาร์) เพื่อเป็นที่ตั้งโรงงานผลิตแห่งแรกในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ งบลงทุนเฟสแรกราว 1.01 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเปิดดำเนิการผลิตได้ราวกลางปี 63

น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม WHA กล่าวว่า ขณะนี้เริ่มมีนักลงทุนชาวจีน และไต้หวันสนใจเข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมของ WHA มากขึ้น หรือคิดเป็น 40% ของกลุ่มลูกค้าทั้งหมดที่ให้ความสนใจ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน แต่สิ่งที่สำคัญคือการที่ไทยมีโครงการ EEC ให้สิทธิประโยชน์แก่นักลงทุนต่างชาติ รวมถึงต้นทุนค่าแรงที่อยู่ในระดับต่ำ

นอกจากกลุ่มเฉิงชาน กรุ๊ป แล้ว บริษัทคาดว่าจะมีนักลงทุนเข้ามาลงทุนในนิคมฯ ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 เพิ่มมากขึ้น โดยประเมินเม็ดเงินลงทุนในนิคมฯ จะสูงถึงราว 1.4 แสนล้านบาทในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า โดยปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายยอดขายที่ดินของนิคมฯ ของกลุ่ม WHA ทั้งหมดที่ 1,600 ไร่ แบ่งเป็น 1,400 ไร่เป็นของนิคมฯ ในประเทศไทย และอีก 200 ไร่เป็นนิคมฯ ในเวียดนาม

ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับกลุ่มนักลงทุนยูนนานเพื่อร่วมกันจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ในพื้นที่ EEC คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้

ด้านนายเชอ หงจื้อ ประธานบริษัท เฉิงซาน กรุ๊ป กล่าวว่า บริษัทวางงบลงทุนตั้งสายการผลิตในประเทศไทยรวม 5 ปี ไว้ที่ 600 ล้านเหรียญฯ โดยจะแบ่งออกเป็น 3 เฟส ซึ่งในเฟสแรกจะใช้เงินลงทุนประมาณ 300 ล้านเหรียญฯ หรือคิดเป็น 10,100 ล้านบาท คาดจะเริ่มก่อสร้างโรงงานได้ในเดือนเม.ย.นี้ และจะเริ่มผลิตในปี 63 ตั้งเป้ากำลังการผลิตยางเรเดียลสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (PCR) ที่ 4 ล้านเส้น และยางเรเดียลสำหรับรถบรรทุกและรถโดยสาร (TBR) จำนวน 5 แสนเส้น

หลังจากนั้นก็จะเริ่มดำเนินการขยายกำลังการผลิตในเฟสที่ 2 และ 3 โดยบริษัทตั้งเป้ามีกำลังการผลิตยางรถยนต์รวมเป็น 12 ล้านเส้น แบ่งเป็น ยางสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 10 ล้านเส้น และยางสำหรับรถบรรทุกและรถโดยสาร 2 ล้านเส้น คิดเป็นการผลิตเพื่อส่งออกราว 90% ไปยังสหรัฐและยุโรป ส่วนอีก 10% จะขายในประเทศไทย

นายเชอ หงจื้อ กล่าวว่า จุดสำคัญที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ศึกษาและมีแผนจะขยายการลงทุนในต่างประเทศ โดยพบว่าประเทศไทยมีการส่งออกยางพาราเป็นอันดับหนึ่งของโลก และมีโครงการ EEC ขณะที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 มีจุดเด่นในด้านทำเลที่ตั้ง รวมถึงทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ ประกอบกับยังมีการส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนของทางการที่เอื้อประโยชน์ให้กับนักลงทุนต่างชาติอีกด้วย ทำให้บริษัทตัดสินใจที่จะขยายการลงทุนมาในไทย ส่วนประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรับและจีนก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดการกระตุ้นการลงทุนเร็วขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ