(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นตามตลาดภูมิภาคหลังตัวเลขศก.ของจีน-สหรัฐฯดี, เล็งกลุ่มพลังงาน-ปิโตรฯขึ้นนำ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 2, 2019 09:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างเคลื่อนไหวในแดนบวกเฉลี่ย 0.5% หลังจากที่ตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีน และสหรัฐฯออกมาดีกว่าคาด อีกทั้งบ้านเราก็ยังได้แรงหนุนจาก MSCI จะเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยในเดือนพ.ค.

ทั้งนี้ ตอนนี้โมเมนตัมตลาดฯเป็นบวก โดยแนะนำหุ้นพวก Global plays อย่างหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี คาดว่าวันนี้จะปรับตัวขึ้น อีกทั้งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับลด VAT ของจีนตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน

อย่างไรก็ดีให้ติดตามความคืบหน้าของการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ต่อไป พร้อมให้แนวรับ 1,640 จุด ส่วนแนวต้าน 1,650-1,655 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (1 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,258.42 จุด เพิ่มขึ้น 329.74 จุด (+1.27%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,867.19 จุด เพิ่มขึ้น 32.79 จุด (+1.16%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,828.91 จุด เพิ่มขึ้น 99.59 จุด (+1.29%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 235.61 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 12.91 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 174.97 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 52.84 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 8.92 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 19.04 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 5.17 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 14.04 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (1 เม.ย.62) 1,644.64 จุด เพิ่มขึ้น 5.99 จุด (+0.37%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 192.77 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 เม.ย.62
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (1 เม.ย.62) ปิดที่ 61.59 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.45 ดอลลาร์ หรือ 2.4%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 เม.ย.62) ที่ 4.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.72/74 แนวโน้มทรงตัว ตลาดไร้ปัจจัยใหม่หนุนทิศทาง มองกรอบวันนี้ 31.65-31.75
  • "ทีดีอาร์ไอ" ห่วงการเมือง ไร้เสถียรภาพฉุดเศรษฐกิจไทย บั่นทอนความเชื่อมั่นต่างชาติ ประเมินทั้งปีโตในกรอบ 3.5-3.9% ด้าน "แบงก์ชาติ" ยอมรับความไม่แน่นอน มีเพิ่มขึ้นจากทั้งปัจจัยภายใน-นอกประเทศ แนะผู้ส่งออกกระจายตลาด ลดความเสี่ยง พร้อมประเมินหากจัดตั้งรัฐบาลได้เร็ว ส่งผลดีต่อการลงทุนในประเทศ
  • ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ คาดการณ์จีดีพีปีนี้โต 3.8% จากพื้นฐานเศรษฐกิจแกร่ง แม้ต้องเผชิญปัจจัยนอกประเทศ ทั้งสงครามการค้า Brexit พร้อมสั่งตรวจสอบสินเชื่อรถยนต์ หลังพบสัญญาณเก็งกำไรผิดปกติ แถมมีเงินทอนให้ลูกค้า ก่อนจะหามาตรการบังคับใช้ หวั่นซ้ำรอยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ ด้าน "กสิกรไทย" แนะภารกิจแรกของรัฐบาลชุดใหม่ต้องเร่งรัดจัดทำงบประมาณปี 63 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่สินเชื่อ 3 เดือนโตในอัตราชะลอตัว คงเป้าหมายทั้งปีที่ 5-7%
  • สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) ประจำเดือน มี.ค. 62 เท่ากับ 102.37 เพิ่มขึ้น 1.24% เมื่อเทียบกับเดือน มี.ค. 61 ซึ่งเป็นการขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากปัญหาภัยแล้ง ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรหลายชนิด มีผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยจนราคาปรับเพิ่มขึ้น เช่น มะนาว, คะน้า, ผักชี ขณะที่ไข่ไก่ เนื้อหมูและราคาน้ำมัน ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน ทำให้เงินเฟ้อในไตรมาสแรก ขยายตัว 0.74%

*หุ้นเด่นวันนี้

  • PTTEP(กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 150 บาท ได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันดิบพุ่งแรง ขณะที่ PTTEP มี Growth story จากการเข้าซื้อ Murphy oil ในมาเลเซียหนุนปริมาณขายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10-15% ต่อปี
  • CPN (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 93 บาท ราคาหุ้น underperform เกือบที่สุด (-4%) ในบรรดาหุ้นที่ถูกคาดว่าจะได้เพิ่มน้ำหนักในรอบการปรับ MSCI พ.ค. นี้ทั้งที่พื้นฐานแข็งแกร่ง พร้อมคาดกำไรปี 2562-2563 โตเฉลี่ย 11% เป็น 12,012 ล้านบาทและ 13,325 ล้านบาทตามลำดับ จากการเปิด IKEA บางใหญ่ (Q1/62), Central i-City (1Q62), Central Village (Q3/62) รับรู้รายได้เต็มปีจาก Central Phuket รับรู้รายได้จาก CTW เต็มที่หลังปรับปรุงแล้วเสร็จ และมีรายได้จากคอนโดต่อเนื่อง
  • JMT (เคทีบีฯ) "ซื้อ"เป้าเชิงกลยุทธ์ 15 บาท JMT ตั้งเป้ารายได้และกำไรสุทธิปีนี้เติบโต 50% สูงกว่า 20% ของ consensus จากความสามารถจัดเก็บหนี้ได้ดีและจะตั้งสำรองธุรกิจประกันน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ และ JMT ปีนี้มีหนี้ที่ต้องเร่งเก็บ 6,000 ล้านบาท ที่ตัดมูลค่าเงินลงทุนครบแล้ว (สามารถรับรู้รายได้ 100% ของยอดเก็บ) และคาดภายใน Q2/62 จะเร่งเก็บหนี้ได้ครบและจะส่งผลให้ครึ่งปีหลังจะมีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น อีกทั้งตั้งเป้ามีกระแสเงินสดจากการเก็บหนี้ 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจุบันราคาหุ้นเทรด PE ปีนี้ 22 เท่า ไม่แพงเพราะยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีในอดีตที่ระดับ -1.2 SD นอกจากนี้ราคาปัจจุบันต่ำกว่าราคาใช้สิทธิที่ 19 บาทของ JMT-W2 อายุ 3 ปี อัตราการใช้สิทธิ 1:1 (เริ่มก.ย 2561)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ