นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้ยาก เนื่องจากปัจจัยแวดล้อมไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา แม้ว่าดาวโจนส์จะปรับตัวขึ้นแต่ก็แค่เล็กน้อย ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อยราว 0.1-0.2% ซึ่งคาดว่า Fund Flow คงจะยังไม่ไหลเข้ามาในช่วงนี้
ดังนั้น จึงมองว่าตลาดฯมีโอกาสที่จะปรับตัวลงมากกว่า พร้อมให้ติดตามความคืบหน้าการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) และติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนต่อไป พร้อมให้แนวรับ 1,640 จุด ส่วนแนวต้าน 1,655 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (3 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,218.13 จุด เพิ่มขึ้น 39.00 จุด (+0.15%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,873.40 จุด เพิ่มขึ้น 6.16 จุด (+0.21%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,895.55 จุด เพิ่มขึ้น 46.86 จุด (+0.60%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 11.48 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 17.39 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 35.97 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.23 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.79 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.80 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 2.44 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 13.72 จุด
ส่วนตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันเด็ก
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 เม.ย.62) 1,649.06 จุด ลดลง 2.42 จุด (-0.15%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 15.14 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 เม.ย.62
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (3 เม.ย.62) ปิดที่ 62.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 12 เซนต์ หรือ 0.2%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (3 เม.ย.62) ที่ 4.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.74 อ่อนค่าสวนทางภูมิภาค จากปัจจัยการเมืองในประเทศ มองกรอบวันนี้ 31.70-31.80
- กกร.หั่นคาดการณ์ เศรษฐกิจไทยปีนี้เหลือเติบโต 3.7-4% พร้อมลด"ส่งออก" เหลือโต 3-5% เหตุวิตกสงครามการค้า-เบร็กซิท ฉุดจีดีพีโลกชะลอ กังวลปัจจัยการเมืองกดดันเศรษฐกิจในประเทศ หวังเห็นรัฐบาลใหม่ภายในพ.ค.นี้ ฟื้นเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ
- รฟท.ตั้งเป้าเจรจา"ซีพี" ปมการเงินจบวันนี้ หวังปลดล็อกปัญหาใหญ่ ชี้หากได้ข้อสรุปต้องเจรจา ประเด็นย่อยอีก 1-2 ครั้ง ก่อนเข็นไฮสปีด เชื่อม 3 สนามบินรายงาน ครม.ภายในเดือน เม.ย.นี้ หลังเจรจาร่วมมาราธอนมากว่า 3 เดือน ไม่ได้ข้อยุติ
- สศค. ศึกษาแผนควบรวม "แบงก์รัฐ" เหลือเฉพาะที่จำเป็น หวังลดภาระงบประมาณ ช่วยบริหารความเสี่ยง ลูกหนี้ได้ดียิ่งขึ้น เผยเปิดเฮียริ่งแล้ว 4 ครั้ง เตรียมเสนอระดับนโยบายพิจารณา ย้ำพนักงานประจำไร้ผลกระทบ ส่วนลูกจ้างชั่วคราวถูกยกเลิก โดยได้เงินชดเชย ตามกฎหมาย ขณะประชาชนไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
- กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเผยเอฟทีเอช่วยดันการค้าไทย-เกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 17.9% หลังจากเริ่มลดภาษีกันตั้งแต่ปี 53 ระบุเกาหลีใต้ลดภาษีให้ไทยกว่า 1.1 หมื่นรายการ ไทยลดให้เกาหลีใต้ 8.4 พันรายการ เตรียมหารือเปิดตลาดในกลุ่มของสินค้าที่ทั้ง 2 ประเทศยังไม่ลดภาษีอีกประเทศละกว่า 1 พันรายการลง หวังเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้มากขึ้น
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ฉบับย่อ ครั้งที่ 2/2562 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2562 โดยกนง.มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% ต่อปีว่า กนง.คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2562 และ 2563 มีแนวโน้มขยายตัวได้ใกล้เคียงศักยภาพ แม้จะเติบโตชะลอลงกว่าที่ประเมินไว้เดิมบ้างจากอุปสงค์ต่างประเทศที่ชะลอลง ขณะที่ยังมีแรงส่งจากอุปสงค์ในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2562 จะขยายตัวร้อยละ 3.8 ต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ที่ 4.0% และในปี 2563 เศรษฐกิจจะขยายตัว 3.9%
*หุ้นเด่นวันนี้
- PTTEP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 160 บาท คาดกำไรปกติก่อนภาษี Q1/62 -8% Q-Q, +9% Y-Y ตามทิศทางเดียวกับปริมาณขายและราคาขาย แต่คาดกำไรสุทธิ +25% Q-Q เพราะ 4Q61 มีรายจ่ายภาษีโครงการซอติก้า US$75 ล้าน แต่ -18% Y-Y เพราะประโยชน์ทางภาษีน้อยกว่าปีก่อนเพราะบาทแข็งน้อยกว่าปีก่อน โดยกำไรจะเร่งขึ้นใน H2/62 หลังรวมธุรกิจ Murphy มาเลเซียซึ่งจะเพิ่มทั้งปริมาณขายและสำรอง คาดกำไรสุทธิทั้งปี +16% PE ยังต่ำเพียง 12x
- SGP (กรุงศรี) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 10 บาท ได้ Sentiment บวกจากราคา LPG ในตลาดโลกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากระดับ 400$/ton ในช่วงต้นปีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 520$/ton ในปัจจุบัน คาดหนุนให้ผลประกอบการของ SGP ในช่วง Q1/62 พลิกมีกำไรจากที่ขาดทุนกว่า 734 ล้านบาทใน Q4/61
- AOT (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อ"เป้า 75 บาท จำนวนผู้โดยสารในช่วงสงกรานต์ที่คาดว่าจะโต 12% YoY ถือว่าอัตราการเติบโตสูงขึ้นมาก เมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่ผู้โดยสารโตในระดับ 2-4% YoY เท่านั้น ส่งผลให้คาดว่ากำไรในช่วง Q3 ปี 61/62 (เม.ย.- มิ.ย.) มีอัตราการเติบโตที่ดี ทั้งนี้ประมาณการทั้งปีมองจำนวนผู้โดยสารโต 7%