หุ้น STEC ปรับขึ้น 1.22% มาที่ 24.80 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.30 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 172.49 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.25 น. ราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 24.60 บาท ราคาทำระดับสูงสุดที่ 24.80 บาท และทำระดับต่ำสุดที่ 24.60 บาท
ด้านหุ้น U ปรับขึ้น 4.10% มาที่ 2.54 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.10 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 14.61 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.24 น. ราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 2.52 บาท ราคาทำระดับสูงสุดที่ 2.56 บาท และทำระดับต่ำสุดที่ 2.52 บาท
เมื่อวานนี้บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายหุ้นทั้ง 100% ในบริษัท หมอชิตแลนด์ จำกัด จาก บมจ.ยู ซิตี้ (U) รวมเป็นเงิน 4.32 พันล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการก่อสร้างอาคารแฝดสำนักงานให้เช่า ภายใต้โครงการ หมอซิต คอมเพล็กซ์ ในเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร บนที่ดินรวมประมาณ 11 ไร่ 0 งาน 40.7 ตารางวา โดยมีวงเงินลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการราว 7.79 พันล้านบาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กรณีดังกล่าวคาดว่าจะเป็น Win-Win เพราะ STEC มีฐานะเป็นเงินสดสุทธิ 1 หมื่นล้านบาท จึงใช้เงินกู้น้อย และมีกลยุทธ์ต้องการรายได้ค่าเช่ามาช่วยกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจหลักคือรับเหมาก่อสร้าง โดยคำแนะนำล่าสุดคือ "ซื้อ" ราคาพื้นฐาน 31 บาท
ส่วน U มีภาระหนี้เงินกู้ (Bearing Det) ณ สิ้นปี 61 ที่ 2.03 หมื่นล้านบาท ทางบริษัทจะนำเงินจากการขายหุ้นได้ที่ 4.32 พันล้านบาทบางส่วนไปคืนหนี้และบางส่วนไปลงทุน โดยคาดว่าจะมีกำไรเบื้องต้นอยู่ที่ราว 1 พันล้านบาท หรือ 0.001 บาทต่อหุ้น เพราะมีจำนวนหุ้นมากถึง 9.35 แสนล้านหุ้น แต่วานนี้ราคาหุ้นปรับขึ้นไป 0.12 บาทแล้ว ก็อาจมีการเก็งกำไรต่อ แต่ควรระมัดระวังขายเมื่อมีข่าวจริง (Sell on Fact)
นอกจากนี้ยังเห็นว่าบริษัทแม่ของ U คือบมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) จะได้ประโยชน์จากกำไรตามส่วนได้เสียที่เพิ่มขึ้น คิดเป็นต่อหุ้นที่ 0.08 บาทหรือ 1% เทียบราคาหุ้น แต่ในแง่ราคาพื้นฐานไม่กระทบ เพราะเป็นรายการไม่ใช่เงินสด แนะนำ "ถือ" BTS ราคาพื้นฐาน 11.07 บาท