หุ้นกลุ่มทีวีดิจิทัล พุ่งขึ้นพร้อมมูลค่าซื้อขายคึกคัก นำโดยหุ้น WORK ปรับขึ้น 3.57% มาที่ 23.20 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.80 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 190.65 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.37 น. ราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 22.50 บาท ราคาทำระดับสูงสุดที่ 23.30 บาท และทำระดับต่ำสุดที่ 22.50 บาท
หุ้น RS อยู่ที่ 18.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท (+1.67%)
หุ้น MCOT อยู่ที่ 11.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท (+6.60%)
หุ้น BEC อยู่ที่ 8.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน
บล.ฟันันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หุ้นกลุ่มทีวีดิจิทัลจะได้ประโยชน์จากการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งมาตรา 44 เปิดทางคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล พร้อมทั้งช่วยค่าใช้จ่ายในการเช่าใช้โครงข่ายโทรทัศน์ประเภทที่ใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล (MUX) โดยกรณีดังกล่าวทำให้ทีวีดิจิทัลทั้ง 22 ช่องไม่ต้องจ่ายค่าคลื่นที่เหลือรวม 1.36 หมื่นล้านบาท และช่วยค่าเช่า MUX เป็นเงินปีละ 1.96 พันล้านบาท จนสิ้นสุดใบอนุญาต ซึ่งมองว่าบมจ.บีอีซี เวิลด์ (BEC) จะได้ประโยชน์มากสุด โดยคาดมูลค่าเหมาะสมเพิ่มขึ้นราว 2.50 บาทเป็น 8 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันเต็มมูลค่า แนะนำขาย
ส่วนมูลค่าหุ้นของบมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ (WORK) จะเพิ่ม 2.50 บาทเป็น 28.50 บาท หุ้นบมจ.อาร์เอส ( RS) เพิ่ม 1.50 บาทเป็น 21.50 บาท โดยชอบ RS มากกว่าเพราะมีแรงขับเคลื่อนจากธุรกิจพาณิชย์หลายช่องทาง (MPC) ซึ่งทำกำไรได้ดีกว่าทีวีดิจิทัล
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่าหุ้นกลุ่มทีวีดิจิทัลจะได้รับอานิสงส์บวกจากมาตรา 44 ดังกล่าว โดยกรณีมีการคืนใบอนุญาต คาดว่าจะลดการแข่งขันในอุตสาหกรรมลง และลดต้นทุนการตัดจำหน่ายค่าใบอนุญาตต่อปีลง ซึ่งฝ่ายวิจัยฯประเมิน WORK มีโอกาสที่จะถูกปรับราคาเป้าหมายขึ้นจากประเด็นนี้
ด้านบล.เอเซีย พลัส ระบุว่าหุ้นที่มีโอกาสถูกเก็งกำไรขึ้นไปต่อ ได้แก่ BEC, บมจ.อสมท (MCOT) , RS รวมถึง WORK แต่ระยะยาวยังต้องพิจารณาแผนธุรกิจของแต่ละรายด้วย