โบรกฯเชียร์"ซื้อ"PTT มองกำไร Q1/62 ฟื้นตามราคาน้ำมันพลิกมีกำไรสต็อก,เกณฑ์ใหม่ IMO เอื้อผลงาน H2/62

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 19, 2019 14:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้นบมจ.ปตท.(PTT) จากแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/62 มีแนวโน้มฟื้นตัวจากไตรมาส 4/61 จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นหนุนให้พลิกมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน ขณะที่กำไรปกติยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปีนี้ จากธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของ PTTEP ที่จะดีขึ้น

ขณะที่ในช่วงครึ่งหลังของปี คาดการณ์ว่าส่วนต่าง (สเปรด) น้ำมันดีเซลและน้ำมันดิบจะสูงขึ้น จากอุปสงค์น้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้นก่อนที่เกณฑ์ใหม่ของ IMO จะมีผลบังคับใช้ในต้นปี 63 จะเข้าช่วยชดเชยสเปรดของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ลดลง อีกทั้งราคาน้ำมันที่มีเสถียรภาพดีกว่าปีก่อนจะช่วยรักษามาร์จิ้นของธุรกิจน้ำมันได้ดีขึ้นด้วย

นอกจากนี้ PTT ยังเป็นหุ้น Defensive และยังมีประเด็นบวกจากแผนการนำบมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (PTTOR) เข้าตลาดหุ้น แม้อาจจะยังมีความล่าช้าอยู่บ้างก็ตาม รวมถึงคาดว่า MSCI จะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้น PTT หลังปรับเกณฑ์การคำนวณใหมี่ที่คาดว่าจะประกาศใช้กลางเดือน พ.ค. และมีผลบังคับใช้ปลายเดือน พ.ค. ซึ่งทำให้หุ้น PTT มีความน่าสนใจการลงทุน หลังจากที่ราคาหุ้นในรอบเดือนที่ผ่านมาไม่ได้เคลื่อนไหวมากนัก

หุ้น PTT อยู่ที่ 48.75 บาทเมื่อเวลา 14.38 น.ไม่เปลี่ยนแปลงจากวานนี้ ขณะที่ SET +0.20%

          โบรกเกอร์                   คำแนะนำ                 ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ               ซื้อ                         55.00
          ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบีฯ               ซื้อ                         55.50
          เอเชีย เวลท์                   ซื้อ                         58.00
          หยวนต้า (ประเทศไทย)           ซื้อ                         53.00
          แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์               ซื้อ                         57.00
          เคที ซีมิโก้                     ซื้อ                         56.00
          บัวหลวง                       ซื้อ                         60.00
          เอเซีย พลัส                    ซื้อ                         56.00

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มกำไรสุทธิของ PTT ในไตรมาส 1/62 ดีขึ้นจากไตรมาส 4/61 หลังราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นมากจากสิ้นปี 61 จะทำให้ PTT ไม่มีผลขาดทุนจากสต็อกเหมือนไตรมาสก่อน รวมถึงผลการดำเนินงานของบริษัทลูกในกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมีที่ดีขึ้นจากที่ไม่มีผลขาดทุนสต็อกเข้ามาชดเชยมาร์จิ้นของธุรกิจที่อ่อนตัวลง ส่วนผลการดำเนินงานของบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) จะได้รับผลบวกบางส่วนจากราคาขายปิโตรเลียมที่อิงกับราคาน้ำมัน ขณะที่ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมส่วนใหญ่เป็นก๊าซธรรมชาติ

ผลการดำเนินงานปกติของ PTT ยังคงอ่อนแอในครึ่งแรกปีนี้ที่ได้รับผลกระทบจากค่าการกลั่น (GRM) อ่อนตัวหลังมีภาวะ Oversupply ของน้ำมันเบนซินในตลาดโลก แต่ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะดีขึ้น จากการที่องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) กำหนดให้เรือเดินสมุทรต้องใช้น้ำมันเตาที่มีค่ากำมะถันต่ำไม่เกินกว่า 0.5% จาก 3.5% ในปัจจุบันตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.63 คาดว่าจะทำให้เกิดอุปสงค์การใช้น้ำมันดีเซลเพื่อมาผสมในน้ำมันเตาเพื่อลดค่ากำมะถัน หรือการใช้น้ำมันดีเซลเพื่อทดแทนมากขึ้น กรณีดังกล่าวก็จะทำให้สเปรดดีเซลสูงขึ้นจากระดับปกติอยู่ที่ 15-20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งจะส่งผลบวกต่อธุรกิจโรงกลั่นของกลุ่ม PTT ที่ส่วนใหญ่ผลิตน้ำมันดีเซลได้ในสัดส่วนที่มาก ก็จะผลักดันให้ GRM รวมปรับตัวดีขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ประเมินว่ากำไรปกติของ PTT ในปีนี้จะเติบโต 8.6% จากปีก่อน หลังมาร์จิ้นธุรกิจน้ำมันจะดีขึ้นจากราคาน้ำมันดิบที่จะมีเสถียรภาพมากกว่าปีที่แล้วที่ราคาน้ำมันมีความหวือหวา จนกระทบต่อการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันส่งผลให้มาร์จิ้นต่ำ ขณะที่ยังมีปัจจัยหนุนจากการขยายในส่วนธุรกิจค้าปลีกอย่างร้านกาแฟคาเฟ่อเมซอน ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นดี นอกจากนี้คาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้มาร์จิ้นธุรกิจก๊าซฯก็น่าจะดีขึ้นด้วย เนื่องจากการซื้อก๊าซฯจาก PTTEP น่าจะถูกลง ตามสูตรราคาซื้อขายก๊าซฯที่อิงกับราคาน้ำมันเตาที่คาดว่าจะมีราคาลดลงรับผลจากเกณฑ์ใหม่ของ IMO

อย่างไรก็ตามในช่วงรอบเดือนที่ผ่านมาราคาหุ้น PTT ไม่ได้เคลื่อนไหวมากนัก ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากยังไม่มีความน่าสนใจอย่างเด่นชัดเมื่อเทียบกับบริษัทลูกอย่าง PTTEP ที่ได้ประโยชน์มากกว่าจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นแล้วราว 40% ในปีนี้ ขณะที่ผลการดำเนินงานปกติของธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีก็ยังไม่สดใสจากมาร์จิ้นที่ยังอ่อนแอ แต่คาดว่าหลังจากนี้ตลาดอาจจะหันมาให้ความสนใจหุ้น PTT เพิ่มขึ้นจากการที่เป็นหุ้น Defensive รวมถึงยังมีประเด็นบวกจากแผนการนำ PTTOR เข้าตลาดหุ้น แม้อาจจะยังมีความล่าช้าอยู่บ้าง

นอกจากนี้การประกาศปรับเปลี่ยนกฏเกณฑ์ของการคำนวนดัชนี MSCI คาดว่าจะทำให้มีการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้น PTT จาก 0.3% เป็น 0.4% ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศในช่วงกลางเดือน พ.ค. และมีผลบังคับใช้ในปลายเดือน พ.ค. ก็อาจจะทำให้มีเงินไหลเข้ามาลงทุนในหุ้น PTT มากขึ้น

"หุ้น PTT ยังเป็นหุ้นปลอดภัย มีกำไรเติบโตต่อเนื่อง และมี Catalyst จากเรื่อง PTTOR เข้ามา รวมถึงคาดการณ์เรื่อง MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักลงทุนในเดือนพฤษภาคม ถ้าประกาศออกมาเป็นแบบนี้ก็จะทำให้มีเม็ดเงินที่ซื้อจริงเข้ามา"นายกิติชาญ กล่าว

นางสาวนลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มกำไรสุทธิของ PTT ในไตรมาส 1/62 จะพลิกกลับมาเติบโตจากไตรมาส 4/61 จากคาดการณ์ว่าจะไม่มีการบันทึกขาดทุนสต็อกน้ำมันในระดับสูงเช่นที่เกิดขึ้นในไตรมาสก่อน แต่ในส่วนของกำไรปกติอาจจะปรับตัวลดลง จากแรงกดดันของผลการดำเนินงาน PTTEP ที่คาดปริมาณขายจะลดลงเพราะตามปกติช่วงต้นปี PTT จะเรียกรับก๊าซฯในอ่าวไทยลดลง รวมถึงมีการหยุดผลิตของแหล่งบงกชใต้นานกว่า 1 เดือน ขณะที่ธุรกิจโรงกลั่นยังถูกกดดันจากค่าการกลั่นที่ลดลงจากภาวะ Oversupply ของน้ำมันสำเร็จรูป แต่คาดว่าค่าการกลั่นมีแนวโน้มดีขึ้นในช่วงเดือนมี.ค.และเม.ย.เพราะเข้าสู่ช่วงฤดูกาลหยุดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งทั่วโลก ขณะที่สเปรดปิโตรเคมียังทรงตัวในระดับต่ำ

บทวิเคราะห์บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่าแนวโน้มกำไรสุทธิของ PTT ในไตรมาส 1/62 จะดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/62 เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพลิกมาปรับขึ้น จากมาตรการลดการผลิตของประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และสงครามการค้าคลายตัว ช่วยให้ขาดทุนสต็อกน้ำมันจำนวนมากหายไป ชดเชยแผนหยุดซ่อมบำรุงโรงแยกก๊าซฯ 45 วัน, แหล่งบงกช 1.5 เดือน, ค่าการกลั่น และส่วนต่างราคาปิโตรเคมีชะลอลงได้

อย่างไรก็ตามปรับประมาณการกำไรปกติปี 62 ลง 9% เพื่อสะท้อนสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบที่ 65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากเดิมที่ 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และให้สอดคล้องกับคาดการณ์กำไรของบริษัทในเครือ ซึ่งภายหลังปรับประมาณการจะทำให้กำไรปกติปี 62 อยู่ที่ 1.3 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากปีที่แล้ว โดยกำไรที่เติบโตมาจากกำไรบริษัทในเครือที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ขณะที่ธุรกิจก๊าซฯชะลอลงจากมาร์จิ้นของโรงแยกก๊าซฯถูกกดดันจากต้นทุนก๊าซขาขึ้น

ทั้งนี้ หยวนต้าฯ เลือก PTT เป็น Top pick จากโครงสร้างธุรกิจครบวงจร และมีความผันผวนน้อย รวมถึงมี Catalyst จากแผนนำหุ้น PTTOR เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ