ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,673.48 จุด ลดลง 0.62 จุด (-0.04%) มูลค่าการซื้อขาย 47,075.54 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ จนมาช่วงท้ายตลาดฯได้พลิกเป็นติดลบ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,683.79 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,673.44 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 458 หลักทรัพย์ ลดลง 852 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 472 หลักทรัพย์
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวน โดยดัชนีฯพยายามขึ้นไปทดสอบระดับ 1,680-1,690 จุด ซึ่งมองเป็นจุดที่ตลาดตึงตัว ทำให้มีแรงขายทำกำไรและมีความเสี่ยงที่จะเกิดต่อเนื่อง ขณะที่บรรยากาศตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้แกว่งแคบ โดยตลาดหุ้นจีนได้ปรับตัวลง 1-2% หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาดีทำให้บางส่วนกังวลว่าอาจกลับมาปรับขึ้นดอกเบี้ย และยังต้องติดตามกรณีที่ใกล้ครบกำหนดระยะเวลาการผ่อนผันนโยบายการคว่ำบาตรอิหร่านในวันที่ 2 พ.ค.นี้ หากสหรัฐฯไม่ขยายระยะเวลาออกไปก็จะเป็นบวกต่อราคาน้ำมัน
ส่วนปัจจัยในประเทศก็ให้รอติดตามการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พ.ค.นี้ หากยังไม่สามารถรับรองผลการเลือกตั้งได้ก็จะมีความเสี่ยงที่อาจถูกเรียกร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ จึงอาจทำให้ตลาดฯเกิดความกังวลและขายทำกำไรออกมาก่อนได้
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (23 เม.ย.) นายกิจพณ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัว จากแรงขายทำกำไรในหุ้นบางตัวหรือบางกลุ่ม อย่างเช่น กลุ่มโรงไฟฟ้าที่ราคาปรับขึ้นมามากจน Valuation แพง แต่ก็ยังมีหุ้นบางกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าตลาดฯในช่วงที่ผ่านมา อย่างกลุ่มโรงกลั่น และกลุ่มพลังงาน รวมถึงกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ทำให้เริ่มเห็นการฟื้นตัว
พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,675-1,684 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,202.24 ล้านบาท ปิดที่ 49.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,733.93 ล้านบาท ปิดที่ 134.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,718.17 ล้านบาท ปิดที่ 71.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,603.65 ล้านบาท ปิดที่ 19.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,288.71 ล้านบาท ปิดที่ 68.50 บาท ลดลง 0.50 บาท