GULF วางเป้ากำลังผลิต 6 ปี (ปี 62-67) โตเฉลี่ย 20.3% หลัง COD ครบ 6,721 MW พร้อมศึกษาพลังงานลมในโอมาน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 24, 2019 16:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนร่วมทุนช่วง 6 ปี (ปี 62-67) เติบโตเฉลี่ยประมาณปีละ 20% หลังจะเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ครบทุกโรงไฟฟ้าที่มีใน 3 ประเทศ จำนวน 33 โครงการ กำลังการผลิตตามสัดส่วนร่วมทุน 6,721 เมกะวัตต์ (MW) จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตที่ COD แล้ว 2,448 เมกะวัตต์

ส่วนร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาวของประเทศปี 2561-2580 (PDP2018) ทำให้เห็นว่าโอกาสเกิดโรงไฟฟ้าถ่านหินจะเกิดขึ้นได้ยาก บริษัทจึงไม่ได้ศึกษาเพิ่มเติม ขณะที่การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนก็จะเป็นขนาดเล็ก ส่วนโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดใหญ่ (IPP) ก็จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววันแม้ในช่วงสั้น ๆ อาจจะมีโรงใหม่เพิ่ม 1-2 พันเมกะวัตต์เท่านั้น

แต่ในร่างแผน PDP2018 เห็นโอกาสการซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในลาวที่มีการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ก็มีโอกาสที่จะเข้ามาเสริมระบบไฟฟ้าของประเทศให้มีเสถียรภาพและมีต้นทุนต่ำ เข้ามาชดเชยการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน

ดังนั้น บริษัทก็ได้วางแผนเติบโตในอนาคต โดยมองโอกาสการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำในลาวที่มีการพัฒนาทั้งเขื่อนขนาดใหญ่ และขนาดเล็กตามริมแม่น้ำโขง ซึ่งบริษัทได้เริ่มศึกษาหลายโครงการเพื่อการพัฒนาและนำไฟฟ้ากลับมาขายในไทย ซึ่งการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำในลาวต้องใช้เวลาอย่างน้อย 7-8 ปี

นอกจากนี้ ยังมองโอกาสการพัฒนาโรงไฟฟ้าในเวียดนามต่อเนื่องจากปัจจุบันที่ได้เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แล้วราว 100 เมกะวัตต์ และมีโครงการพลังงานลมในมืออีก 300-400 เมกะวัตต์ รวมถึงศึกษาการทำโรงไฟฟ้าอื่น ๆ ในเวียดนามด้วย

ส่วนในโอมานที่ได้ร่วมพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ กำลังผลิตติดตั้ง 326 เมกะวัตต์นั้น ซึ่งจะ COD ในปี 63-65 ก็มองโอกาสศึกษาการลงทุนในธุรกิจก๊าซฯ , คลังก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ธุรกิจน้ำ เป็นต้น เพราะพื้นที่การพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าในปัจจุบันนั้นเสมือนพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดในไทย ที่มีโอกาสพัฒนาโรงไฟฟ้าได้เพิ่มเติมเพราะพื้นที่ดังกล่าวมีก๊าซฯทำให้มีโอกาสเกิดอุตสาหกรรมโรงกลั่นและปิโตรเคมี นอกจากนี้ยังมองโอกาสผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในประเทศแถบนี้ด้วย โดยเฉพาะขณะนี้ที่มีการศึกษาโรงไฟฟ้าพลังงานลมในโอมาน

"ตอนนี้เราได้ทำโรงไฟฟ้าโรงแรกประมาณ 300 เมกะวัตต์ แต่ภายใน 10-20 ปีมองว่าจะขึ้นเป็นหลักพันเมกะวัตต์ได้ค่อนข้างสูง เพราะที่โน่นมีก๊าซฯ สามารถทำโรงกลั่นและปิโตรเคมีได้ เรามองเป็น Strategic ที่จะขยายไปอย่างอื่นได้"นายสารัชถ์ กล่าวในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ