CPALL คาดยอดขายรวมปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 7% ขยายสาขาเพิ่ม 700 สาขา-ยอดขายเดิมโต 2-3% วางงบลงทุน 1.15-1.2 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 26, 2019 16:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) กล่าวว่า บริษัทฯ คาดยอดขายรวมปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 7% เป็นไปตามการเติบโตจากการขยายเครือข่ายร้านสาขา 7-Eleven อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯ มีแผนขยายสาขาเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 700 สาขา โดยตั้งเป้าภายในปี 64 จะมีสาขารวมทั้งสิ้น 13,000 สาขา จากสิ้นปี 61 มีร้าน 7-Eleven จำนวนรวม 10,988 สาขา แบ่งเป็น ร้านในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 4,834 สาขา และร้านในต่างจังหวัด 6,154 สาขา และมุ่งเน้นการเป็นร้านอิ่มสะดวกของคนไทย และพัฒนาสินค้าใหม่ร่วมกับคู่ค้า เพื่อนำเสนอสินค้าใหม่ที่หลากหลาย มีจำหน่ายเฉพาะที่ร้าน 7-Eleven ขณะเดียวกันยอดขายจากสาขาเดิมก็คาดว่าจะเติบโตได้ 2-3%

บริษัทฯ วางงบลงทุนรวมในปีนี้ สำหรับการขยายสาขาและปรับปรุงสาขาเดิม รวมถึงใช้ในศูนย์กระจายสินค้า และโครงการอื่น ๆ ในอนาคต จำนวน 11,500-12,000 ล้านบาท

"บริษัทฯ มุ่งเน้นการขยายเครือข่ายร้านสาขาให้ครอบคลุมเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า ทั้งการปรับปรุงร้านสาขาเดิม และสาขาใหม่ให้มีรูปแบบและสิ่งอำนวยความสะดวกที่สอดคล้องกับพฤติกรรมและรูปแบบการดำเนินชีวิตของลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเป้าหมายเปิดร้านสาขาใหม่ประมาณ 700 สาขาต่อปี เพื่อมุ่งสู่ 13,000 สาขาในปี 64 ซึ่งการขยายสาขาจะสอดคล้องไปกับการขยายตัวของชุมชนเมือง ทั้งหัวเมืองหลัก หัวเมืองรอง ตามการขายตัวของโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ท่องเที่ยวและเขตเศรษฐกิจพิเศษต่างๆ และในทำเลที่มีศักยภาพอื่นๆ"นายก่อศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมเข้าเจรจากับบมจ.ปตท. (PTT) เพื่อต่อสัญญาร้าน 7-Eleven ในสถานีบริการน้ำมันของกลุ่มปตท. ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีสัญญาเหลืออยู่ 5 ปี เนื่องจากถึงเวลาที่จะเข้าไปเจรจาแล้ว ขณะเดียวกันบริษัทฯ ก็อยู่ระหว่างเจรจาทำสัญญาเฟรนไชส์ กับบริษัท 7-Eleven, Ind เพื่อก่อตั้งและดำเนินธุรกิจร้าน 7-Eleven ในประเทศกัมพูชาและลาว คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในไตรมาส 2/62 ซึ่งหากเห็นความชัดเจนแล้ว บริษัทฯ จึงจะบอกได้ว่าจะใช้งบลงทุนเท่าใด และมีแผนต่อไปอย่างไร แต่เบื้องต้นเห็นว่าทั้งสองประเทศมีศักยภาพการเติบโต จากการที่มีประชากรรวมกันคิดเป็น 1 ใน 3 ของประเทศไทย

สำหรับปี 62 บริษัทฯ คาดว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นเล็กน้อย โดยสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) คาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้จะอยู่ที่ 3.5-4.5% ตามการใช้จ่ายภาคครัวเรือน การลงทุนภาคเอกชน และการลงทุนภาครัฐ ที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่มีความคืบหน้าหลายโครงการ เช่น โครงการรถไฟฟ้า โครงการภายใต้แผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมทั้งภาคการท่องเที่ยวจะขยายตัวดีขึ้น หลังจากชะลอตัวในครึ่งหลังของปีที่ผ่านมา และการจัดการเลือกตั้งในไตรมาส 1/62 จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ภาคธุรกิจ การลงทุนของภาคเอกชน ตลอดจนการกลับมาของกำลังซื้อและความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยให้เพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตามก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ ความผันผวนของเศรษฐกิจและการเงินโลก ราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย ที่จะส่งผลต่อต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ

ทั้งนี้ สมาคมผู้ค้าปลีกไทยคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดค้าปลีกปี 62 จะขยายตัว 3.5-3.8% โดยมีมูลค่าประมาณ 3.6 ล้านล้านบาท จากปีก่อนมีการขยายตัวที่ 3% และมีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 3.5 ล้านล้านบาท ซึ่งมองว่าจะเห็นภาพการแข่งขันในรูปแบบของการปรับตัวสู่การค้าขายในอนาคต ที่เชื่อมโยงการผสมผสานกับร้านค้าที่มีหน้าร้านรูปแบบเดิมหรือออฟไลน์และการค้าออนไลน์ รวมไปถึงการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีมาช่วยในการทำความเข้าใจผู้บริโภค เป็นต้น

นายก่อศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทฯ เตรียมบันทึกค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงานตามกฎหมายแรงงานใหม่ เข้ามาในไตรมาส 2/62 แต่ยืนยันว่าจะไม่กระทบกับผลการดำเนินงานของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยถึงมูลค่าดังกล่าวได้

นอกจากนี้ในเรื่องของนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาลใหม่ มองว่าจะไม่กระทบกับบริษัทฯ อย่างแน่นอน เนื่องจากพนักงานส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ภายใต้ค่าแรงขั้นต่ำ หรือได้รับค่าจ้างที่สูงกว่านั้นอยู่แล้ว แต่อาจจะกระทบกับพนักงาน part time ของ 7-Eleven และศูนย์กระจายสินค้า อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังมองเป็นบวก เพราะเชื่อว่าการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ