ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,667.15 จุด ลดลง 6.17 จุด (-0.37%) มูลค่าการซื้อขาย 40,824.39 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,674.01 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,663.14 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 383 หลักทรัพย์ ลดลง 899 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 474 หลักทรัพย์
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้อ่อนตัวลง ด้วยวอลุ่มเทรดที่น้อย เนื่องจากนักลงทุน Wait & See ในช่วงที่รอดูการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และรอความชัดเจนจากปัจจัยการเมืองอันเป็นปัจจัยหลักด้วย ทำให้การซื้อขายชะลอ อีกทั้งวันนี้หุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวลงนำตลาดฯหลังจากราคาน้ำมันได้ถอยกลับ หลังจากที่สต็อกน้ำมันของสหรัฐฯได้ปรับตัวขึ้น ส่วนหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น และปิโตรเคมี หากไม่รวมกำไรจากสต็อกน้ำมันแล้ว คาดว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 1/62 ในส่วนของการดำเนินงานปกติจะถอยลง เพราะค่าการกลั่นในไตรมาส 1/62 ไม่ค่อยดี
ส่วนกลุ่มสื่อสารวันนี้ก็ได้หุ้น DTAC ฉุดลงหลังจากที่ Core profit ลดลง จากรายได้ที่ลดลง แสดงให้เห็นว่าการแข่งขันยังรุนแรงอยู่ ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-บ
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า น.ส.อาภาภรณ์ กล่วว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัว หากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา แต่สัปดาห์หน้าก็จะมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็มองว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ และมูลค่าแค่ 2 หมื่นล้านบาท ถือว่าไม่มาก ซึ่งตลาดฯได้ตอบรับเรื่องนี้ไปแล้ว ส่วนเรื่องรถไฟความเร็วสูงก็รอให้ครม.พิจารณา ซึ่งนักลงทุนยังคงจะต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป และรอดูความชัดเจนทางการเมืองด้วย โดยให้จับตาพรรคอนาคตใหม่หลังจากที่หัวหน้าพรรคมีหลายประเด็นที่จะต้องเคลียร์ รวมถึงสัปดาห์หน้าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ก็จะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนด้วย
พร้อมให้แนวรับ 1,650-1,630 จุด ส่วนแนวต้าน 1,670-1,680 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,095.10 ล้านบาท ปิดที่ 49.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,853.33 ล้านบาท ปิดที่ 68.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,762.91 ล้านบาท ปิดที่ 135.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 1,734.27 ล้านบาท ปิดที่ 70.00 บาท ลดลง 1.75 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,563.31 ล้านบาท ปิดที่ 76.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง