(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้มีโอกาสซึมลงคล้ายภูมิภาค หลังตัวเลขศก.จีนออกมาอ่อนลง/ติดตามการประชุมเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 30, 2019 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสซึมลง คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรออกมาหลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้นมามากแล้ว และตัวเลขเศรษฐกิจของจีนที่ออกมาอ่อนตัวลงก็ไปกดดันเศรษฐกิจในภูมิภาค

โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนเม.ย. อยู่ที่ระดับ 50.1 ลดลงจากระดับ 50.5 ในเดือนมี.ค. ส่วนดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการเดือนเม.ย. อยู่ที่ระดับ 54.3 ลดลงจากระดับ 54.8 ในเดือนมี.ค.

นายกิจพณ กล่าวต่อว่า ตลาดฯยังติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนต่อไป ว่าจะได้ข้อสรุปการเจรจาหรือไม่ในการเจรจารอบใหม่ครั้งนี้ และติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย และยังคงจะใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อเนื่อง

ด้านปัจจัยการเมืองในประเทศยังคงกดดันตลาดฯต่อไป พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,655-1,675 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (29 เม.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,554.39 จุด เพิ่มขึ้น 11.06 จุด (+0.04%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,943.03 จุด เพิ่มขึ้น 3.15 จุด (+0.11%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,161.85 จุด เพิ่มขึ้น 15.46 จุด (+0.19%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 9.88 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 64.66 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 6.88 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 3.00 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 4.83 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.78 จุด

ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันสละราชสมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 เม.ย.62) 1,666.68 จุด ลดลง 0.47 จุด (-0.03%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 70.40 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 เม.ย.62
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (29 เม.ย.62) ปิดที่ 63.50 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ หรือ 0.3%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 เม.ย.62) ที่ 4.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.92 ทรงตัวจากวานนี้ ตลาดรอปัจจัยใหม่ มองกรอบวันนี้ 31.85-31.95 จับตาแรงซื้อดอลล์สิ้นเดือน
  • คลัง ชงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวันนี้ เน้นอัดฉีดผ่านบัตรสวัสดิการรัฐวงเงินไม่น้อยกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท ขณะสศค. หั่น "จีดีพี" ปีนี้เหลือ 3.8% หลังส่งออกโตต่ำคาด ประเมินครึ่งปีแรกเศรษฐกิจโต แค่ 3% ก่อนฟื้นครึ่งปีหลัง ชี้มาตรกระตุ้น ทุก 1 หมื่นล้านบาท ช่วยพยุงเศรษฐกิจได้ ราว 0.1%
  • รองประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ส่งออกของไทย ว่า ปัจจัยที่จะช่วยภาคการส่งออกไทยได้ในขณะนี้คือ การเร่งสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำต่างประเทศ การเจรจาการค้า (เอฟทีเอ) และการจัดงานแสดงสินค้าในประเทศต่างๆ (โรดโชว์) ซึ่งการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศ จะช่วยลดมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่มาตรการทางภาษี นอกจากนี้อีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีคือ การสานสัมพันธ์กับผู้นำประเทศและผู้นำเอกชนในแต่ละประเทศ จะช่วยลดแรงกดดันทางการค้าได้เช่นกัน
  • ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอล มาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เผยเงินบาทมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.75-32.10 ต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยตลาดจะมุ่งความสนใจไปที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ หลายรายการ อาทิ ดัชนีภาคการผลิตและบริการ การจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน และค่าจ้าง แม้ข้อมูลการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไตรมาส 1/2562 ของสหรัฐออกมาสดใสเกินคาดแต่ค่าใช้จ่ายบริโภคส่วนบุคคลขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เพิ่มโอกาสที่เฟดจะส่งสัญญาณอย่างระมัดระวังมากขึ้นต่อการดำเนินนโยบายในระยะถัดไปและตอกย้ำว่า เฟดน่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยตลอดปีนี้

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SEAFCO (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 10.20 บาท (หลัง XD) คาดกำไรปกติ Q1/62 ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อที่ 123 ล้านบาท +5% Q-Q, +137% Y-Y จากการก่อสร้างหลายโครงการ เช่น รถไฟฟ้าสีส้ม, ชมพู, One Bangkok เฟส 4, Bangkok Mall, S12 สุขุมวิท12 และมาร์จิ้นดีขึ้นจาก economy of scales และปีนี้ได้งานเพิ่มกว่า 900 ล้านบาท ดัน Backlog เป็น 2.75 พันล้านบาท และร่วมประมูลอีก 2.3 หมื่นล้านบาท บริษัทจะขึ้น XD 7 พ.ค. ปันผลเป็นหุ้น 10:1
  • CPALL (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 88 บาท ได้ Sentiment บวกจากข่าวภาครัฐยกเลิกแผนท่องเที่ยวเมืองรอง 1,500 บาทต่อรายเป็นเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการจาก 300 บาท/เดือน เป็น 500 บาทต่อเดือน มอง CPALL ได้ประโยชน์เพราะมีสาขากระจายทั่วประเทศมากกว่าผู้ประกอบการอื่นๆ
  • SCC (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อเมื่ออ่อนตัว"เป้า 490 บาท กำไร Q1/62 ชะลอตัวจากปีก่อน 11,662 ล้านบาท (+11%QoQ, -6%YoY) ใกล้เคียงกับที่คาดไว้ 11,750 ล้านบาท ถูกฉุดจากธุรกิจเคมิคอลส์ ในขณะที่ธุรกิจปูนซีเมนต์ และ แพคเกจจิ้งเติบโตดี และคาดกำไรไตรมาส Q2/62 จะทรุดลง ถูกกระทบจากกฏหมายคุ้มครองแรงงานใหม่ และสเปรดปิโตรเคมีที่ทรุดลง ส่วนแนวโน้มปี 2562 คาดจะประคองตัวกำไรโตเล็กน้อย โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจปูนซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง และ แพคเกจจิ้ง เติบโต ส่วนธุรกิจเคมิคอลส์มีความไม่แน่นอน
  • WHA (เคทีบี) "ซื้อ" เป้าเชิงกลยุทธ์ 4.50 บาท คาดเปิดตัวนิคม WHA ESIE3 เดือนพ.ค. นี้ พร้อมลูกค้าจีนจองซื้อที่ดิน 285 ไร่ ซึ่งก่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อยอดขายที่ดินปี 2562 ที่ 1.6 พันไร่ (มากกว่าเป้าเดิมที่ 1.4 พันไร่) โดยมองรายได้ค่าเช่าจะดีขึ้น จากการจัดตั้ง E-Commerce Park เพื่อรองรับการลงทุนร่วมกับ Alibaba, JD และล่าสุดมีโอกาสร่วมทุนกับบริษัท E-Commerce ขนาดใหญ่ในไทย พร้อมคาดผลการดำเนินงานใน Q2/62 จะเพิ่มขึ้น YoY จากยอดโอนที่ดินที่เพิ่มขึ้น ตามยอด Pre-sale ที่เพิ่มขึ้นสูงใน มากกว่า 746 ไร่ และเพิ่มขึ้น QoQ จากการไม่ปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า Gheco I และรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า GNLL2 ที่ COD ในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา เต็มไตรมาส

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ