THCOM เผย Q1/62 มี EBITDA พลิกเป็นบวกแม้รายได้หด แต่ขาดทุน 33 ลบ.จากตัดจำหน่ายสินทรัพย์

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 8, 2019 16:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ไทยคม (THCOM) ผู้ให้บริการดาวเทียมไทย รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1/62 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการในไตรมาส 1/62 รวมทั้งสิ้น 1,303 ล้านบาท ลดลง 13.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/61 และลดลง 13.4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/61 สาเหตุหลักจากการลดลงของรายได้บริการดาวเทียมแบบทั่วไปที่ปรับราคาให้แก่ลูกค้ารายใหญ่สำหรับการต่อสัญญาระยะยาว ขณะที่รายได้จากดาวเทียมบรอดแบนด์ไทยคม 4 ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถรักษาระดับกำไรจากการดำเนินงานปกติ (EBIT) ได้ที่ 96 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นอย่างมากจากไตรมาส 4/61 ที่มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานปกติ 126 ล้านบาท และไตรมาส 1/61 ที่มีผลขาดทุนจากการดำเนินงานปกติ 20 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) อยู่ที่ 559 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA Margin) ที่ระดับ 43% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 24% ในไตรมาส 4/61 และ 31% ในไตรมาส 1/61 เนื่องมาจากบริษัทสามารถบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิในไตรมาส 1/62 เป็นจำนวน 33 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการตัดจำหน่ายสินทรัพย์เป็นจำนวน 34 ล้านบาท รวมทั้งผลขาดทุนจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าเป็นจำนวน 5 ล้านบาท

นายอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร THCOM กล่าวว่า บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะให้บริการด้านดาวเทียมที่ดีเยี่ยมอย่างต่อเนื่องแก่พันธมิตรและลูกค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พร้อมกันนี้ ยังให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างการจัดการ รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยการจัดการดังกล่าว สามารถช่วยชดเชยรายได้ที่ลดลงจากบริการดาวเทียมได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งได้เริ่มเห็นผลลัพธ์ของกำไรจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นแล้วในไตรมาสที่ผ่านมา

"ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้มีการปรับโครงสร้างองค์กร และให้ความสำคัญกับการบริหารและควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปี 62 นี้บริษัทยังคงเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ของปี 62 ที่ได้กำหนดธุรกิจออกเป็น 3 ทิศทาง ได้แก่ (1) ด้านธุรกิจดาวเทียมด้วยการแสวงหารูปแบบการลงทุนดาวเทียมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยร่วมกับพันธมิตรในต่างประเทศ รวมทั้งยินดีที่จะเปิดกว้างในการทำงานเพื่อให้เกิดความร่วมมือสูงสุดระหว่างภาครัฐและเอกชน (public-private partnership – PPP) (2) ด้านธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับดาวเทียม โดยใช้จุดแข็งด้านการตลาดและวิศวกรรมในการพัฒนาธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับบริการดาวเทียมและการสื่อสารมาพัฒนาเป็นธุรกิจและบริการ (3) ด้านธุรกิจใหม่ โดยมุ่งไปที่ธุรกิจด้านเทคโนโลยีและดิจิตอล เพื่อลดการพึ่งพารายได้จากดาวเทียมเพียงอย่างเดียว"นายอนันต์ กล่าว

ในส่วนของกลุ่มบริษัทในเครือ บริษัท ลาว เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (แอลทีซี) ในประเทศลาว มีจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (ไม่นับรวม fixed line) ในระบบรวมทั้งสิ้น 1.48 ล้านราย และยังคงมีส่วนแบ่งในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็นประมาณ 56% ของตลาดรวม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ