L&E มั่นใจรายได้ปีนี้โต 15% แม้หดตัวใน Q1 จากเลื่อนส่งมอบงาน แต่เชื่อทั้งปีทยอยรับรู้ Backlog กว่า 1 พันลบ.ครบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 9, 2019 15:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ (L&E) เปิดเผยว่า บริษัทยังมั่นใจว่ารายได้ปี 62 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ระดับ 15% จาก 2.92 พันล้านบาทในปีก่อน แม้ว่าในไตรมาส 1/62 จะมีรายได้การขายและให้บริการ 598 ล้านบาท ลดลง 5% เป็นผลจากงานโครงการได้ปรับตัวลดลง 5% งานค้าส่ง ค้าปลีกลดลง 6% ขณะที่งานส่งออกเพิ่มขึ้น 7%

อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อมั่นว่างานโครงการเป็นสัดส่วนรายได้หลักของบริษัทยังมีแนวโน้มเติบโตสูง จากการลงทุนของภาครัฐบาลและเอกชนอย่างต่อเนื่อง แม้จะปรับลดลงในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้เป็นผลจากการเลื่อนส่งมอบสินค้าของงานทั้งจากภาครัฐบาลและภาคเอกชนบางโครงการไปเป็นไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3 ส่วนการลดลงของงานขายส่ง ขายปลีกเป็นผลจากการแข่งขันที่เข้มข้นและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง ขณะที่การเพิ่มขึ้นของงานส่งออกนั้นเป็นผลจากการปรับตัวดีขึ้นของตลาดในประเทศเมียนมา ประเทศกัมพูชา ประเทศลาว ประเทศมาเลเซีย และประเทศอินโดนีเชีย

ทั้งนี้ ไตรมาส 1/62 บริษัทมีกำไรสุทธิ 15.7 ล้านบาท ลดลง 21% จากงวดปีก่อน ขณะที่มีอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นจาก 33.5% เป็น 36.1% เนื่องจากสามารถลดต้นทุนการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง อย่งาไรก็ตามบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารรวมดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 5% เป็นผลจากการปรับเงินเดือนประจำปี รวมถึงมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเนื่องจากโรงงานของบริษัทย่อยในประเทศเวียดนามได้เริ่มดำเนินการผลิตแล้ว และมีภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลง 1.5 ล้านบาท เป็นผลจากกำไรที่ลดลง

บริษัทคาดว่าการเลื่อนส่งมอบงานโครงการมาเป็นช่วงไตรมาส 2 และ 3 รวมถึงทิศทางธุรกิจเริ่มฉายแววสดใสต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมธุรกิจไตรมาส 2/62 มีแนวโน้มการเติบเติบโตที่ดี ปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) มูลค่าทั้งสิ้นประมาณกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดในปีนี้ อีกทั้งอยู่ระหว่างเดินหน้าประมูลงานโครงการใหม่ ๆ เพิ่มเติมอีก ก็จะช่วยผลักดันรายได้ในปีนี้เติบโตได้ตามเป้าหมาย

"L&E เราเป็นผู้นำในธุรกิจแสงสว่าง โดยเฉพาะงานโครงการจากภาครัฐบาลและเอกชน ที่เร่งขยายการลงทุน แม้จะเลื่อนการส่งมอบออกไปจากแผนเดิม แต่มองว่าในช่วงต่อจากนี้จะสามารถเดินหน้าต่อและเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ ขณะที่ภาพรวมกำลังซื้อในประเทศสำหรับลูกค้ารายย่อยทรงตัว ประกอบกับการแข่งขันที่สูง บริษัทได้ขยายโอกาสการเติบโตมายังตลาดส่งออก และประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม เห็นทิศทางตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้ ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากการส่งออกจะเพิ่มขึ้นแตะ 9% จากตลาดหลักในต่างประเทศเติบโต และแผนการรุกตลาดเวียดนามผ่านการจัดตั้งบริษัทย่อยแล้วเสร็จในช่วงปลายปีที่ผ่านมาเริ่มเห็นผล และเตรียมนำโมเดลนี้ลุยตลาดที่มาเลเซียและอินโดนีเซีย"นายปกรณ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ