CKP เผยกำไรสุทธิ Q1/62 โตกว่า 10 เท่า ตามรายได้ขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากน้ำงึม 2- BIC-โซลาร์-ไซยะบุรี บางส่วน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 10, 2019 10:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ซีเค พาวเวอร์ (CKP) เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทในปี 2562 ว่า CKP มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 30% จากช่วงเดียวกันของปี 2561 เป็น 2,418 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 มีรายได้ 1,829 ล้านบาท นับเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้น 589 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาสแรกของ CKP เพิ่มขึ้นเป็น 139.4 ล้านบาท นับเป็นกำไรที่เพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อน เป็นการย้ำประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้น แสดงถึงการเติบโตของธุรกิจโรงไฟฟ้าหลักที่ CKP บริหารงานอยู่ทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ บางเขนชัย

ปัจจัยที่ทำให้รายได้และกำไรของ CKP เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 มาจากปริมาณน้ำที่ไหลเข้าโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 มีปริมาณเพิ่มขึ้น 110 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 30% ประกอบกับการปรับค่ารับซื้อไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพิ่มขึ้น 8% ซึ่งมีผลตั้งแต่เดือนมกราคม 2562

อีกทั้ง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่าน CKP เริ่มจ่ายไฟโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา ขนาดกำลังการผลิต 0.9 เมกะวัตต์ ให้แก่ผู้ประกอบการภาคเอกชนแล้วจำนวน 1 โครงการ จากจำนวนทั้งสิ้น 5 โครงการ และยังมีโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินอีก 1 โครงการ รวมกำลังการผลิต 6.75 เมกะวัตต์ ซึ่งได้เริ่มทยอยก่อสร้างตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ปี 2561 คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ ได้ครบทั้งหมดในปี 2562 นี้ ขณะเดียวกัน โครงการไฟฟ้าพลังงานระบบความร้อนร่วม โรงไฟฟ้าบางปะอินโคเจนเนอเรชั่น (BIC) มีการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5-6%

นายธนวัฒน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้โรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี มีความคืบหน้ากว่า 98% ได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ.อย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยเป็นการจ่ายไฟจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาด 175 เมกะวัตต์ เครื่องแรกจากจำนวนทั้งหมด7 เครื่อง ซึ่ง CKP คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เครื่องที่ 2 และ 3 ได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ และจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตามแผนได้ภายในไตรมาส 4 ของปี 2562 นี้

"จากผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีนี้ รวมถึงกิจกรรมการดำเนินงานที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของกลุ่ม CKP ในการส่งเสริมผลประกอบการในอนาคตให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายของบริษัทที่จะก้าวเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดของประเทศและในภูมิภาคอาเซียน และดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน (Sustainable) ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม (Social and Environmental Responsibility) ซึ่ง CKP จะยังคงมุ่งหาโอกาสทางธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายกำลังการผลิตติดตั้งที่ 5,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568" นายธนวัฒน์กล่าว

จากการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2562 คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการซื้อหุ้นบริษัท เซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัด เพิ่มในสัดส่วน 5.33% เป็นมูลค่ารวม 681.5 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ CKP เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท เซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัด จาก 56.0% เป็น 61.3% ของทุนจดทะเบียน และเพิ่มสัดส่วนการลงทุนทางอ้อมใน โรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม 2 จาก 42.0% เป็น 46.0% โดยคาดว่าจะดำเนินการเข้าทำสัญญาและดำเนินการต่างๆ แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2562

ในส่วนของสถานะทางการเงิน เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2562 บริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด ได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2562 จำนวนรวม 6,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนสถาบันเป็นอย่างดี โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ที่ออกในครั้งนี้ที่ระดับ "A" และปรับเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้ชุดอื่นๆ ทั้งหมดของบริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด เป็นระดับ "A" และมีแนวโน้มอันดับเครดิต "คงที่" โดยบริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด ได้นำเงินจากการออกและเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวชำระคืนหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงินที่เหลือทั้งหมด เพื่อลดต้นทุนและเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่ม CKPower


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ