ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,635.85 จุด ลดลง 4.28 จุด (-0.26%) มูลค่าการซื้อขาย 27,821.69 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,639.63 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,630.74 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย และตลาดในสหรัฐฯต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า จากแรงกดดันจากประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน จากที่จีนมีการตอบโต้สหรัฐฯด้วยการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯเป็น 25% จากเดิม 10% วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ มีผลบังคับใช้ 1 มิ.ย.
แต่ตลาดบ้านเราปรับตัวลงน้อยกว่าตลาดภูมิภาค เนื่องจากได้รับแรงประคองจาก MSCI ที่ปรับเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นไทย และมีการนำหุ้นเข้า-ออก ด้วย โดยเป็น MSCI Global Standard Index ได้มีการเพิ่มหุ้นเข้า 3 ตัวคือ INTUCH, DTAC, RATCH และได้ถอดหุ้นออก 1 ตัว คือ DELTA ส่วนหุ้นขนาดเล็กก็ได้มีการนำเข้า 6 ตัว และออก 6 ตัว ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องดีดตัวขึ้น หรือทรงตัวได้
อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการจัดตั้งรัฐบาล และการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงติดตามทิศทางราคาน้ำมัน
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯยังคงติดลบอยู่ และอาจผันผวนมากขึ้น โดยมีแนวรับ 1,625 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,268.91 ล้านบาท ปิดที่ 47.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 977.81 ล้านบาท ปิดที่ 64.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 902.20 ล้านบาท ปิดที่ 129.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 886.37 ล้านบาท ปิดที่ 24.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
BEM มูลค่าการซื้อขาย 768.01 ล้านบาท ปิดที่ 11.10 บาท ลดลง 0.10 บาท