S คาด"เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท"เสนอขาย IPO- เข้าเทรด SET ช่วง Q3/62 นำเงินลงทุนขยายโรงแรม-ลดหนี้-ทุนหมุนเวียน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 15, 2019 17:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สิงห์ เอสเตท (S) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมนำบมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (SHR) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยวางแผนเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ไม่เกิน 40% ของทุนชำระแล้ว ของ SHR ภายหลังการเพิ่มทุน โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 1,437.45 ล้านหุ้น

โดย SHR ได้ยื่นแบบเสนอขายหุ้น(ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้น IPO ซึ่งมีทั้งหุ้นสามัญเพิ่มทุน และหุ้นสามัญเดิม ที่ SHRSG จะนำออกมาเสนอขาย โดยมีธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และธนาคารกรุงไทยเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งคาดว่าจะสามารถเสนอขาย IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ในช่วงไตรมาส 3/62

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนบริษัทจะนำไปใช้ลงทุนในการพัฒนาโครงการต่างๆ ซึ่งรวมถึงโครงการ Crossroads เฟส 1 โครงการปรับปรุงและพัฒนาโรงแรม Outrigger โครงการปรับปรุงพัฒนาโรงแรม พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท ใช้เป็นเงินทุนสำหรับขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงนำเงินไปชำระคืนเงินกู้จาก สิงห์ เอสเตท และเงินกู้จากสถาบันการเงิน เพื่อทำให้หนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงอยู่ในระดับต่ำกว่า 1 เท่า โดยปัจจุบันมีหนี้สินทั้งหมด 1.2 หมื่นล้านบาท และเงินส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

ปัจจุบัน SHR มีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท และมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วราว 1 หมื่นล้านบาท สัดส่วนการถือหุ้นของ SHR ประกอบด้วย บริษัท เอส โฮลเทล แอนด์ รีสอร์ท อินเตอร์ จำกัด ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 81% ภายหลัง IPO สัดส่วนจะลดเหลือ 48.60% และ SHRSG ถือหุ้น 19% ภายหลัง IPO จะเหลือ 11.40%

ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท อินเตอร์ และ SHRSG คือ บมจ.สิงห์ เอสเตท (S) และหลัง IPO SHR จะยังคงมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของสิงห์ เอสเตท เหมือนเดิม โดยบมจ.สิงห์ เอสเตท มีนโยบายจะยังคงสัดส่วนการถือหุ้นใหญ่ในบมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ในสัดส่วนที่ไม่ต่ำกว่า 51%

สำหรับการยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และร่างหนังสือชี้ชวนสำหรับการเสนอขายหุ้น IPO ต่อก.ล.ต. เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 62 ที่ผ่านมา

ด้านแผนการการดำเนินงานของ SHR ในระยะยาวนั้น ตั้งเป้ามีจำนวนโรงแรมเพิ่มเป็นแตะ 100 แห่ง ภายในปี 68 จากปัจจุบันที่มีจำนวนโรงแรมทั้งสิ้น 39 แห่ง จำนวน 4,647 ห้อง ซึ่งในปีนี้บริษัทจะใช้เงินลงทุนในการขยายและปรับปรุงโรงแรมในเครือราว 4-5 พันล้านบาท พร้อมกับยังคงเดินหน้ามองหาโอกาสในการลงทุนโรงแรมใหม่ ๆ การเข้าซื้อโรงแรม การร่วมทุนกับพันธมิตร และการเข้าไปบริหารโรงแรม ซึ่งจะทำให้บริษัทมีขนาดของพอร์ตโรงแรมที่มากขึ้น และทำให้มีสัดส่วนรายได้ของธุรกิจโรงแรมที่เป็นรายได้ประจำให้กับ S ในสัดส่วน 50% ได้อย่างมั่นคง จากปีก่อนที่มีสัดส่วนรายได้ของธุรกิจโรงแรมใน S ราว 40%

นอกจากนี้ยังมองไปถึงโอกาสในการที่จะนำโรงแรมในเครือเข้าจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) เพื่อจะนำเงินไปต่อยอดการลงทุนในโครงการโรงแรมใหม่ ๆในอนาคต โดยที่การลงทุนโรงแรมในเครือจะกระจายไปยังประเทศต่างๆที่มีศักยภาพ และจะเน้นโรงแรมที่ไม่มีฤดูกาลเข้ามาเกี่ยวข้องมาก ซึ่งจะช่วยให้โรงแรมที่บริษัทลงทุนมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในปี 61 ของ SHR มีรายได้ราว 3 พันล้านบาท และมีกำไรอยู่ที่กว่า 400 ล้านบาท มีมูลค่าสินทรัพย์รวม 2.6 หมื่นล้านบาท และคาดว่าในปี 62 และ 63 จะเห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของรายได้หลังจากที่ปี 62 มีการรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปีของโรงแรม Outrigger ทั้งหมด 6 แห่ง และในช่วงกลางปีนี้จะทยอยเปิดให้บริการโรงแรมในมัลดีฟส์อีก 2 แห่ง ซึ่งจะมีรายได้เข้ามาเสริมอีก และจะรับรู้รายได้จากโครงการในมัลดีฟส์เต็มปีในปี 63 หนุนให้รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งจะช่วยหนุนให้รายได้ของ S เติบโตขึ้นตามไปด้วย โดยมั่นใจว่ารายได้ของ S ในปี 62 จะแตะระดับ 2 หมื่นล้านบาทได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ