STEC ลบ 2.29%โบรกฯแนะ"ขายทำกำไร"หลังราคาขึ้นโดดเด่นกว่าหุ้นรับเหมาอื่น

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 5, 2008 11:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          หุ้น STEC ราคาไหลลง 2.29% มาอยู่ที่ 6.40 บาท ลดลง 0.15 บาท มูลค่าซื้อขาย 48.12 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.01 น. โดยเปิดตลาดที่ 6.45 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 6.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 6.35 บาท 
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันซ่า แนะ"ขายทำกำไร"หุ้น บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น(STEC)
แม้บอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยืดเวลา Airport Rail Link รอบ 2 อีก 190 วันถึงเดือนก.ย.08 จากเดิมที่ขยายเวลาให้แล้ว 180 วัน ตามมติครม.
โดยบทวิเคราะห์ ระบุไว้ว่า เนื่องจากไม่แปลกใจกับข่าวการขยายเวลาก่อสร้าง Airport Rail Link รอบ 2 เพิ่มอีก 190 วัน เพราะสอดคล้องกับที่ผู้บริหาร STEC เสนอไป
นอกจากนี้ แม้จะมีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มรับเหมา ซึ่งได้ประโยชน์โดยตรงจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐผ่านการเร่งประมูลโครงการ Mega Projects แต่เชื่อว่ายังมีหุ้นรับเหมาอื่นที่โดดเด่นกว่า
การที่ราคาหุ้น STEC เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา(1 ก.พ.)ได้ปรับตัวขึ้นโดดเด่นกว่าหุ้นรับเหมาตัวอื่น ทำให้ราคาปัจจุบันเกินราคาเป้าหมายปี 51 ที่ 5.38 บาท
ปัจจุบันนี้ STEC มี Backlog 1.32 หมื่นลบ. ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ปีนี้ 1.12 หมื่นลบ. ในขณะที่งานใหม่ที่คาดว่าจะประมูลได้เพิ่มในปีนี้มีมูลค่าอีก 8 พันลบ.(vs. 5.3 พันลบ.ในปี 07) หลักๆคือสร้างโรงงานงานผลิต Module ให้ออสเตรเลียมูลค่า 1 หมื่นลบ. ซึ่งต้องแบ่งคนละครึ่งกับ STP&I โดยคาดว่าจะทราบผลภายใน 1H08 นี้ ที่เหลือเป็นงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าและปิโตรเคมีที่คาดว่าจะทราบผลประมูลปลายปีนี้ และเริ่มงานได้ในปีหน้า
สรุปโดยรวม ประมาณการรายได้ปีนี้ของ STEC ที่ 1.39 หมื่นลบ. ซึ่งแม้จะลดลง 21% YoY แต่อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) คาดว่าจะดีดจากจุดต่ำสุดที่ 2.5% ในปี 07 เป็น 4.5% ปีนี้ (แต่ก็ยังไม่เต็มที่นัก เมื่อเทียบกับ GPM ในอดีตที่เฉลี่ย 6%)
หนุนให้กำไรสุทธิโต 30% เป็น 363 ลบ. (ส่วนหนึ่งเพราะฐานต่ำ) ซึ่งการฟื้นตัวของกำไรจะเริ่มชัดขึ้นตั้งแต่ 2H08 หลังงานใหม่ๆ ที่รับเข้ามาคาดให้ GPM >8% ในขณะที่งานเก่าๆ ที่มี GPM ต่ำเพียง 0-4% จะเริ่มทยอยหมดไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ