กลุ่มโรงกลั่นราคาอ่อนตัวลงหลังโบรกฯต่างชาติปรับลดคำแนะนำ เหตุค่าการกลั่นหดลง-ศก.โลกกดดันธุรกิจปิโตรฯ

หุ้นในกลุ่มโรงกลั่นราคาอ่อนตัวลง โดยเมื่อเวลา 10.58 น.หุ้น TOP ลบ 2.80% มาอยู่ที่ 60.75 บาท ลดลง 1.75 บาท มูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 1,190.16.92 ล้านบาท

หุ้น IRPC ลบ 0.84% มาอยู่ที่ 4.74 บาท ลดลง 0.04 บาท มูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 230.30 ล้านบาท

หุ้น PTTGC ลบ 0.80% มาอยู่ที่ 62.25 บาท ลดลง 0.50 บาท มูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 675.97 ล้านบาท

แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า ราคาหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นเช้านี้ได้ปรับตัวลง ด้วยแรงขายที่เข้ามาค่อนข้างมาก คาดว่าจะเป็นผลจากโบรกเกอร์ต่างชาติได้ปรับลดคำแนะนำหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นลง ไม่ว่าจะเป็น บมจ.ไทยออยล์ (TOP), บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC), บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) หลังจากที่ค่าการกลั่นได้ปรับตัวลงจาก Supply ที่เข้ามามากขึ้น และด้วยภาวะเศรษฐกิจโลกทำให้ไปกดดันธุรกิจกลุ่มปิโตรเคมีด้วย

อย่างไรก็ดี มองว่ากลุ่มโรงกลั่นจะกลับมาดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหล้ง (H2/62) จากมาตรการควบคุมกำมะถันขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ที่กำหนดให้เรือเดินสมุทรต้องใช้น้ำมันเตาที่มีค่ากำมะถันต่ำไม่เกินกว่า 0.5% จาก 3.5% ในปัจจุบัน ซึ่งมีผลบังคับใช้ในต้นปี 63 ซึ่งก็น่าจะทำให้ค่าการกลั่นกลับมาดีขึ้นได้

ด้านบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯเห็นด้วยกับมุมมองที่ประเมินว่ามาตรการ IMO2020 จะส่งผลดีกับโรงกลั่นที่มีสัดส่วนน้ำมันดีเซลสูงและน้ำมันเตากำมะถันสูงน้อย อย่างไรก็ตามแนวโน้มผลประกอบการระยะสั้นของ TOP ยังถูกกดดันจากแผนหยุดซ่อมบำรุง CDU3 ครั้งใหญ่ และค่าการกลั่นปัจจุบันที่ยังคงอ่อนแอ แนะนำเพียง"ถือ"เพื่อรอผลบวกจาก IMO ในครึ่งปีหลัง (H2/62) พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 81 บาท