โบรกเกอร์ต่างแนะนำ "ซื้อ" หุ้นบมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) เพราะมีปัจจัยหนุนมาจากโอกาสในการเข้าประมูลงานและได้งานใหม่ ๆ เข้ามาในช่วงครึ่งหลังปีนี้ หลังจากที่มีความชัดเจนของรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งจะทำให้มีโครงการต่าง ๆ ทยอยเปิดประมูลออกมา และหาก UNIQ ได้งานเพิ่มเข้ามาจะเป็นแรงหนุนต่อมูลค่างานในมือ (Backlog) ให้เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมี Backlog อยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท ยังสามารถรองรับรายได้ไปอีกกว่า 2 ปี ทำให้ยังมีรายได้เข้ามาต่อเนื่อง
อีกทั้งการประมูลงานใหม่ ๆ จะเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาหุ้น UNIQ ให้เพิ่มขึ้นได้ หลังจากราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาในช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้ระดับ P/E ลดลงมาอยู่ที่ 14 เท่า จากเดิมในช่วง 2 ปีก่อนหน้าอยู่ที่กว่า 20 เท่า
ช่วงบ่ายราคาหุ้น UNIQ อยู่ที่ 10.90 บาท ลดลง 0.10 บาท (-0.91%) ขณะที่ดัชนี SET ลดลง 0.79%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
หยวนต้า (ประเทศไทย) ซื้อ 15.40
เคที ซีมีโก้ ซื้อ 15.30
บัวหลวง ซื้อ 15.00
เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ ซื้อ 14.20
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง แนะนำ "ซื้อ" UNIQ ราคาเป้าหมาย 15 บาท/หุ้น จากโอกาสของการรับงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 62 ที่คาดว่าจะมีงานโครงการภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับสาธารณูปโภคออกมามากในหลักแสนล้านบาท ซึ่งงานดังกล่าวเป็นงานที่ค้างมาจากรัฐบาลชุดก่อน ทำให้มีโอกาสที่ UNIQ จะได้งานเข้ามาบ้าง ประกอบกับการที่ UNIQ มี Backlog ที่สูงกว่า 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งสามารถรองรับการรับรู้รายได้ไปอีก 2 ปีครึ่ง ทำให้ยังมีรายได้เข้ามา และเป็นงานที่ให้มาร์จิ้นค่อนข้างดี ทำให้มีกำไรอยู่ในระดับที่ค่อนข้างมีความแน่นอนในแต่ละปีราว 800-900 ล้านบาท โดยที่ประเมินว่ากำไรของ UNIQ ในปีนี้จะเติบโตได้ 6% จากปีก่อน
ขณะที่ราคาหุ้นของ UNIQ ในปัจจุบันถือว่ายังมีความน่าสนใจ เพราะได้ปรับตัวลดลงมาติดต่อกัน 2 ปี จนทำให้ระดับ P/E ลดลงมาที่ 14 เท่า เนื่องจากโครงการประมูลต่าง ๆ ที่เปิดประมูลบริษัทไม่ได้เข้าร่วมและมีโครงการประมูลออกมาไม่มาก ทำให้ความโดดเด่นของงานใหม่ที่จะเข้ามาเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาหุ้นหายไป ซึ่งคาดว่าหากมีการเปิดประมูลโครงการใหม่ๆในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเป็นแรงส่งให้กับราคาหุ้นของ UNIQ ได้บ้าง
นายสุรชัย ประมวลเจริญกิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แนะนำ "ซื้อ" UNIQ ราคาเป้าหมาย 14.20 บาท/หุ้น โดยที่บริษัทมี Backlog ที่มีมูลค่าสูง 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งสามารถรองรับการรับรู้รายได้ในช่วง 2 ปีเศษ ซึ่งมีการรับรู้รายได้จากงานโครงการขนาดใหญ่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เช่น งานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก 2 สัญญา เหลือมูลค่างาน 1 หมื่นล้านบาท และโครงการรถไฟทางคู่ เส้นลพบุรี-ปากน้ำโพ 2 สัญญา เหลือมูลค่างาน 1.7 หมื่นล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้เข้ามา นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการเข้าร่วมประมูลงานโครงการใหม่ที่จะออกมา หลังการจัดตั้งรัฐบาลมีความชัดเจน
ขณะที่ราคาหุ้นของ UNIQ ในปัจจุบันถือว่ามีความน่าสนใจ เมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างบริษัทอื่น เนื่องจากมีระดับ P/E ที่อยู่ในระดับที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับในอดีต ซึ่งปัจจุบันลดลงมาที่ 14 เท่า และราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลงมาระดับหนึ่ง ซึ่งยังต้องรอดูข่าวการประมูลงานต่าง ๆ หลังจัดตั้งรัฐบาลเสร็จแล้วว่าจะมีการเปิดประมูลโครงการใหม่ ๆ ออกมาอย่างไรบ้าง ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาหุ้นของบริษัทได้บ้าง
นักวิเคราะห์บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำ "ซื้อ" UNIQ ราคาเป้าหมาย 15.40 บาท/หุ้น จากความคาดหวังโอกาสการได้งานในบางสัญญาที่บริษัทเข้าร่วมประมูล ที่อยู่ระหว่างการรอประกาศผลประมูลออกมา ซึ่งหากได้งานประมูลใหม่ ๆ เข้ามาจะช่วยหนุน Backlog ของบริษัทให้เพิ่มขึ้น ซึ่ง Backlog ปัจจุบันของบริษัทอยู่ในระดับที่รองรับรายได้ไปอีกกว่า 2 ปี ซึ่งมี Backlog อยู่ที่ราว 3 หมื่นล้านบาท โดยหากบริษัทได้งานใหม่เข้ามาจะเป็นแรงหนุนให้มี Backlog ที่มากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อการรับรู้รายได้ในอนาคต
นอกจากนี้การประมูลงานใหม่ ๆ จะเป็นแรงหนุนต่อราคาหุ้นของบริษัทให้มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นได้บ้าง จากในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ระดับ P/E ปรับตัวลดลงเหลือ 14 เท่า จากกว่า 20 เท่า ในช่วง 2 ปีก่อนหน้า ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทแทบจะไม่มีการเข้าประมูลและได้รับงานใหม่ ๆ เลย ทำให้ขาดปัจจัยหนุนที่ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาหุ้น ซึ่งยังต้องติดตามหลังการจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จ จะมีโครงการใหม่ ๆ ออกมาเปิดประมูลบ้าง ซึ่งการเข้าร่วมประมูลและมีโอกาสในการได้งาน จะเป็นแรงผลักดันราคาหุ้นของ UNIQ ได้อย่างมีนัยสำคัญด้วย