(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นปรับขึ้นตามตลาดตปท. เล็งรับอานิสงส์สงครามการค้าใกล้ยุติ-การเมืองในปท.ชัดเจนขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 27, 2019 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้จะเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดในเอเชียจะแกว่งในแดนบวกเล็กน้อย แต่ตลาดประเทศพัฒนาแล้วจะติดลบ คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน จะจบได้ในเร็ว ๆ นี้ และมีแผนจะพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ในการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่นในเดือนหน้า

นอกจากนี้ ปัจจัยการเมืองในประเทศในบ้านเราก็มีความชัดเจนขึ้น หลังจากที่ได้ประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร แล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามคาด ที่เป็นบุคคลที่มาจากแกนนำหลักในการจัดตั้งรัฐบาล

อีกทั้งตลาดฯน่าจะได้รับแรงหนุนจาก MSCI ที่จะมีการ Re-balance ซึ่งจะมีผลในวันที่ 28 พ.ค.นี้ โดยจะมีหุ้นที่ได้รับการเพิ่มน้ำหนักการลงทุน ทำให้หุ้นที่ถูกเพิ่มน้ำหนักก็จะเป็นที่สนใจในตลาดฯ

พร้อมให้แนวรับ 1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,620-1,630 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (24 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,585.69 จุด เพิ่มขึ้น 95.22 จุด (+0.37%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,826.06 จุด เพิ่มขึ้น 3.82 จุด (+0.14%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,637.01 จุด เพิ่มขึ้น 8.73 จุด (+0.11%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 31.24 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.72 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 114.85 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 15.90 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.06 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 1.42 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 6.12 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 28.29 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 พ.ค.62) 1,614.12 จุด เพิ่มขึ้น 4.33 จุด (+0.27%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 366.63 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2562
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (24 พ.ค.62) ปิดที่ 58.63 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือ 1.2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 พ.ค.62) ที่ 3.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.76/78 แข็งค่าหลังดอลล์อ่อน จับตาประชุมซัมมิตสหรัฐฯ-ญี่ปุ่นวันนี้
  • อุตสาหกรรมยานยนต์-ชิ้นส่วนโล่งอก หลังไทยไม่อยู่ในรายชื่อที่ USTR เรียกเจรจาถึงการส่งสินค้าที่กระทบต่อความมั่นคงสหรัฐ ด้าน สมอ.จับตาเทรดวอร์ทำสินค้าจีนทะลักไทย จี้ตรวจสอบแหล่งที่มา
  • อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้หารือร่วมกับอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เพื่อติดตามสถานการณ์ที่มีผลต่ออุตสาหกรรม และกำหนดท่าทีในการดำเนินการของไทย หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี ให้สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) เจรจาตกลงกับประเทศที่ส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วน มายังตลาดสหรัฐ โดยเฉพาะกับสหภาพยุโรป หรืออียู ญี่ปุ่น และประเทศอื่น ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐ และป้องกันผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ โดยให้รายงานผลภายใน 180 วัน
  • ยางพาราไทยเริ่มสดใสหลังจีน-เยอรมัน แห่ตั้งโรงงานผลิตล้อส่งออกไปทั่วโลก เผยคุณภาพยางพาราของไทยก็ดีกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ขณะที่ตลาดในประเทศได้อานิสงส์โครงการภาครัฐส่งเสริมการใช้ในรูปแบบต่างๆ ส่งผลราคายางมีเสถียรภาพมากขึ้น
  • ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติเลือกนายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร และเลือกสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ด้านนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะนำคณะผู้บริหารพรรค ไปเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลในเช้าวันนี้ จากนั้นในช่วงบ่ายจะเดินทางไปเทียบเชิญพรรคภูมิใจไทย เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลต่อไป

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ICHI (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 5.20 บาท กำไรในปีนี้จะกลับมาเติบโตเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีและมีโอกาสสูงที่จะดีกว่าคาดที่ 273 ล้านบาท เพราะ Q1/62 ทำได้ถึง 114 ล้านบาท แนวโน้ม Q2/62 โตต่อเพราะ high season (ปกติ 1H ดีกว่า 2H) ความสำเร็จเกิดจากการคุมเข้มรายจ่าย เน้นสินค้ามาร์จิ้นสูง รับจ้างผลิตเพื่อใช้เครื่องจักรให้เต็มที่ และรุกตลาด CLMV ด้านบริษัทร่วมในอินโดฯเริ่มขาดทุนลดลงเพราะประสบความสำเร็จกับ Thai Milk Tea การรุกตลาดจีนจะเริ่มที่ Online ซึ่งมีรายจ่ายน้อย และมีแผนเลิกสินค้าที่ไม่ทำกำไรซึ่งจะยิ่งดีต่อ bottom line
  • RATCH (เคทีบี) "ซื้อ"เป้าเชิงกลยุทธ์ 65 บาท หุ้นหลุมหลบภัยที่มีโอกาสได้กำลังผลิตใหม่เพิ่ม โดย RATCH ตั้งเป้าหมายในปี 2566 จะมีมูลค่ากิจการรวม(EV) 2 แสนล้านบาท และมี MW รวม 10,000 MW (ปัจจุบัน 7,526 MW) พร้อมคาดกำไรสุทธิปีนี้ 6,900 ล้านบาท โต 24% (Bloomberg Consensus ) สูงสุดในรอบ 5 ปี RATCH เคยมีกำไรสุทธิ 6,279 ล้านบาทในปี 2557 ตอนนั้นราคาหุ้น 60 บาท ฉะนั้นปีนี้ราคาควรจะปรับขึ้นสูงกว่า อีกทั้งยังมีโรงไฟฟ้าเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 500MW ในปีนี้ ไม่รวมที่ทดแทนของเดิมที่ได้มา 1400MW
  • AMATA (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า Consensus 26.5 บาท ได้ Sentiment บวกจากภาพการเมืองที่ชัดเจน คาดรัฐบาลใหม่เดินหน้า EEC ต่อ ขณะเดียวกันสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐยังหนุนให้เกิดเงินทุนเคลื่อนย้ายจากจีนมาไทยเพื่อเลี่ยงปัญหา Trade war มากขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ