GBS มอง SET ผันผวนกรอบ 1,595-1,640 จุด จากสงครามการค้าไม่ชัดเจน แม้ยังมีปัจจัยบวกการเมืองในปท.-MSCI เพิ่มนน.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 28, 2019 11:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,595-1,640 จุด ทิศทางมีความผันผวนในกรอบกว้างจากสัปดาห์ก่อนจากความไม่ชัดเจนของสงครามการค้าสหรัฐและจีน ด้านปัจจัยการเมืองในประเทศคาดจะมีความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงการปรับเพิ่มน้ำหนักตลาดหุ้นไทยของ MSCI อย่างไรก็ตามเริ่มเห็นนักลงทุนโยกเงินลงทุนทองคำมากขึ้น จากความกังวลเศรษฐกิจทั่วโลกรับผลกระทบสงครามการค้าที่เริ่มขยายวงกว้าง

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจาก การเปิดเผยของประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ และจีนจะจบได้ในเร็ว ๆ นี้ และมีแผนจะพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่นในวันที่ 28-29 มิ.ย.62 รวมทั้งการปรับเพิ่มน้ำหนักตลาดหุ้นไทยของ MSCI ซึ่งจะมีผลปลายเดือนพ.ค.นี้ และปัจจัยการเมืองในประเทศมีความคืบหน้า การจัดตั้งรัฐบาลใกล้เป็นความจริง

ส่วนปัจจัยลบที่ยังคงกดดันในช่วงนี้ ล่าสุดทาง เจพีมอร์แกน ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐโตเพียง 1% ในไตรมาส 2/2562 หลังสหรัฐรายงานตัวเลขเศรษฐกิจในเดือนเม.ย.อ่อนแอหลายรายการ อาทิ ยอดขายบ้านใหม่และบ้านมือสองลดลง การผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง ยอดค้าปลีกลดลง รวมทั้งจีนเปิดเผยกำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้หดตัวลง 3.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยลดลง 3.7% เมื่อเทียบเป็นรายปีเฉพาะเดือนเม.ย. และ ตัวเลขส่งออกของไทยในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2562 หดตัว 1.86% กดดันความเสี่ยงที่จะเห็นการส่งออกทั้งปีหดตัว และเป็นเหตุให้ Consensus มีแนวโน้มปรับลดคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปีนี้ ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเตรียมทบทวนตัวเลข GDP ปี 62 ใหม่ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 26 มิ.ย.นี้

นอกจากนี้ยังคงต้องจับตาในวันที่ 28 พ.ค. สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม สหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผย ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนพ.ค. สหรัฐ เปิดเผย ราคาบ้านเดือนมี.ค. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค. และดัชนีการผลิตเดือนพ.ค. ในวันที่ 29 พ.ค. สหรัฐ เปิดเผย ดัชนีการผลิตเดือนพ.ค.จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ วันที่ 30 พ.ค. สหรัฐ เปิดเผย จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ GDP ไตรมาส 1/2562 (ประมาณการครั้งที่ 2) ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ และ วันที่ 31 พ.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ด้านนายสรรพกัณฑ์ ปัมทบริสุทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนในกรอบกว้างจากสัปดาห์ก่อนจากความไม่ชัดเจนของสงครามการค้าสหรัฐฯและจีน ขณะที่ปัจจัยการเมืองคาดจะมีความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล โดยคาดดัชนี SET จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,595-1,640 จุด ช่วงนี้ใกล้เวลาดัชนีอ้างอิงหุ้นปรับการคำนวณ (rebalance) จึงแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่จะเข้าคำนวณดัชนี MSCI มีผล 28 พ.ค. ได้แก่ RATCH, INTUCH และ DTAC เข้าคำนวณดัชนี MSCI Thailand ส่วนหุ้นที่จะเข้าคำนวณดัชนี FTSE มีผล 21 มิ.ย. ได้แก่ OSP เข้าคำนวณดัชนี FTSE All-World ส่วน TQM, NER และ PR9 เข้าคำนวณดัชนี FTSE Small Cap

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ มองว่าภาวะสงครามการค้าทวีความรุนแรงและขยายวงกว้างมากขึ้นจากคำสั่งพิเศษของรัฐบาลสหรัฐ ที่อาจกำหนดให้ผู้ประกอบการในทุกประเทศที่ต้องการทำการค้ากับสหรัฐต้องระงับการทำธุรกิจกับบริษัทใดๆ ของจีนก็ได้ ซึ่งจีนถือเป็นประเทศที่นำเข้าสินค้าเทคโนโลยีเพื่อผลิตต่อที่สำคัญ แต่ก็เป็นประเทศที่ส่งออกวัตถุดิบสำหรับสร้างเทคโนโลยีในอันดับต้นของโลกด้วย ทำให้เกิดความกังวลอย่างมากต่อห่วงโซ่อุปทานและรอบวงการผลิตทั่วโลก โดยเฉพาะในกิจการที่เกี่ยวข้องกับสิทธิบัตรทางเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ ว่าถ้าหากเกิดการโต้กลับจากทางจีน และฝั่งสหรัฐฯเพิ่มรายชื่อบริษัทที่ถูกแบน จะสร้างความเสียหายร้ายแรงให้แก่เศรษฐกิจทั่วโลกได้ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวอ่อนแรงลดลงมาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว

ขณะที่เงินทุนเลือกเข้าถือพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจากภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจ กดให้อัตราผลตอบแทนต่ำลง ส่วนกลุ่มโลหะมีค่าได้รับอานิสงส์ 2 ส่วน ทั้งจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และสถานะสินทรัพย์ปลอดภัยสำหรับการลงทุน แต่เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าสถานการณ์สงครามการค้ามีโอกาสจะคลี่คลายได้เมื่อเข้าสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้ง ทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นในลักษณะรีบาวด์เท่านั้น และคาดว่าไม่น่าจะทะลุระดับสำคัญที่ 1,300 ดอลลาร์ ขึ้นไปยืนได้อย่างมั่นคง

ดังนั้น คาดการณ์กรอบราคาทองคำสัปดาห์นี้มีแนวต้านในช่วง 1,290 -1,305 ดอลลาร์ ส่วนแนวรับอยู่ในช่วง 1,265-1,270 ดอลลาร์ และให้ระดับ 1,280 ดอลลาร์ เป็นเส้นแบ่งการเลือกเล่นสวิงระหว่างกรอบบนกับกรอบล่าง โดยกลยุทธ์ยังคงแนะนำให้เก็งกำไรแบบ swing trade ในกรอบจำกัด และเน้นปิดทำกำไรเร็ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ