ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,637.69 จุด เพิ่มขึ้น 17.47 จุด (+1.08%) มูลค่าการซื้อขาย 65,213.26 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดการซื้อขาย โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,640.54 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,622.99 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 875 หลักทรัพย์ ลดลง 543 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 427 หลักทรัพย์
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นจากความคาดหวังเรื่องประเด็นการเมืองในประเทศ ที่ในช่วงเย็นวันนี้น่าจะรู้ผลว่าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือไม่ ขณะที่หลายฝ่ายคาดว่าปชป.จะเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ก็จะทำให้โอกาสการเลือกนายกรัฐมนตรีได้ตามที่คาดการณ์ ส่งผลให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่
นอกจากนี้ยังคาดว่าน่าจะยังคงมีแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ท่ามกลางความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีโอกาสที่จะปรับลดดอกเบี้ยในระยะต่อไป หลังภาวะเศรษฐกิจสหรัฐดูแย่ลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นเพราะคาดว่าจะมีเงินไหลออกมาลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
อย่างไรก็ตามตลาดยังมีความกังวลต่อประเด็นสงครามการค้าที่จะส่งผลต่ออุปสงค์การใช้น้ำมันและปิโตรเคมี ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มน้ำมันและปิโตรเคมียังไม่ได้ขยับขึ้นมากนักจากส่วนต่าง (สเปรด) ผลิตภัณฑ์ที่ยังอยู่ในระดับต่ำ
ส่วนแนวโน้มการซื้อขายในวันพรุ่งนี้ (5 มิ.ย.) คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบกว้างบริเวณ 1,625-1,650 จุด แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกจากการเมืองในประเทศ อย่างกรณีที่ปชป.จะร่วมจัดตั้งรัฐบาลตามที่ตลาดคาดการณ์ แต่ก็ไม่น่าจะทำให้ตลาดมีความร้อนแรงมากนัก เพราะยังต้องรอดูโฉมหน้าของคณะรัฐบาลและรัฐมนตรีในกระทรวงหลักอย่างพาณิชย์ ,คลัง ,คมนาคม และเกษตร ท่ามกลางความกังวลต่อสงครามการค้าที่ยังคงปกคลุมตลาดอยู่
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 5,037.46 ล้านบาท ปิดที่ 81.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,546.09 ล้านบาท ปิดที่ 65.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,911.49 ล้านบาท ปิดที่ 46.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,787.66 ล้านบาท ปิดที่ 125.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,014.13 ล้านบาท ปิดที่ 458.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท