โบรกฯเชียร์"ซื้อ" BCH แม้คาดกำไร Q2/62 อ่อนแอจากตั้งสำรองฯมาก ก่อนกลับมาเติบโต H2/62 รับไฮซีซั่น-เปิดศูนย์ IVF

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 5, 2019 14:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้น บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) คาดผลการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะกลับมาเติบโตหลังจากกำไรจะอ่อนแอลงในช่วงไตรมาส 2/62 เนื่องจากจะมีการบันทึกรายการพิเศษหลายรายการ ได้แก่ การบันทึกสำรองผลประโยชน์พนักงานตามกฎหมายแรงงานใหม่ และการตั้งสำรองของโครงการประกันสังคม สำหรับโรครุนแรง หลังจากที่สำนักงานประกันสังคมแจ้งว่าอาจจะมีการลดการชำระเงินคืนสำหรับโรครุนแรง

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานที่กลับมาเติบโตช่วงครึ่งหลังของปี เป็นผลจากเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจโรงพยาบาล และโรงพยาบาลเวิลด์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ (WMC) มีแผนจะเปิดให้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าจีนที่มีแนวโน้มเติบโตดี โดยภาพรวมปีนี้ BCH ยังตั้งเป้ารายได้เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก หลังได้รับประโยชน์จากฐานผู้ประกันตนเพิ่มขึ้น ขณะที่ประมาณการกำไรสุทธิไว้ที่ 1.24-1.27 พันล้านบาท เติบโต 14-16.8% จากปีก่อน ประกอบกับราคาหุ้น BCH ที่อ่อนตัวลงมาน่าเป็นจังหวะที่เข้าเก็บสะสมได้

ช่วงบ่ายราคาหุ้น BCH อยู่ที่ 16.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 2.47% ขณะที่ SET เพิ่มขึ้น 0.54%

          โบรกเกอร์                 คำแนะนำ                    ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          หยวนต้าฯ                     ซื้อ                            23.20
          เคจีไอฯ                      ซื้อ                            21.50
          ทรีนีตี้                        ถือ                            21.15
          ฟินันเซีย ไซรัส                 ซื้อ                            21.00
          แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์              ซื้อ                            21.00
          ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี               ซื้อ                            19.30
          เคทีบีฯ                       ซื้อ                            19.10

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ยังคงคำแนะนำ"ซื้อ" BCH แม้คาดว่ากำไรในไตรมาส 2/62 จะอ่อนแอ เพราะมีการตั้งสำรองลูกหนี้ประกันสังคมในส่วนโรคซับซ้อน และสำรองผลประโยชน์พนักงานตามกฎหมายแรงงานใหม่ แต่คาดว่าในช่วงครึ่งหลังปี 62 จะกลับมาเติบโตแข็งแรง หลังจากที่ผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/62 โดยในไตรมาส 3/62 เป็นช่วง High Season ของธุรกิจโรงพยาบาล ส่วนโรงพยาบาล WMC ก็ยังเติบโตดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจะเปิดศูนย์ IVF ในไตรมาส 3/62 จะช่วยหนุนการเติบโตในระยะต่อไป

อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้ปรับประมาณกำไรของ BCH และยังคงคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้จะเติบโต 14% มาที่ 1.24 พันล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมาเคลื่อนไหวระดับ 15-16 บาท ก็สามารถเข้าเก็บสะสมได้

ด้านบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คงคำแนะนำ "ซื้อ" BCH แม้ว่าระยะสั้นจะมีประเด็นลบ จากการเบิกเงินประกันสังคมสำหรับโรคเรื้อรังที่ล่าช้า และอาจต้องตั้งสำรองเป็นลบเพิ่มในไตรมาส 2/62 แต่ยังคงมองว่าภาพรวมกำไรปกติในปี 62 ยังเป็นอีกปีที่เติบโตดี จากทั้งกลุ่มเงินสดและประกันสังคม อีกทั้งราคาปัจจุบันปรับลดลงสะท้อนประเด็นลบไปแล้ว ทำให้มี Downside จำกัด

สำหรับในไตรมาส 2/62 คาดว่าจะมีการบันทึกรายการพิเศษหลายรายการ ได้แก่ การบันทึกสำรองผลประโยชน์พนักงาน เป็นค่าใช้จ่าย 30 ล้านบาท และการตั้งสำรองของโครงการประกันสังคม สำหรับโรครุนแรง หลังจากที่สำนักงานประกันสังคมแจ้งว่าอาจจะมีการลดการชำระเงินคืนสำหรับโรครุนแรง อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีการบันทึกรายการเป็นบวก 1 รายการจากการบันทึกค่าภาระโรคเสี่ยง 26 โรคเรื้อรัง ของโครงการที่รับประกันสังคม ซึ่งล่าช้ามาจากในไตรมาส 1/62 แต่เงินเบิกย้อนหลังก้อนใหญ่จะเลื่อนไปบันทึกในไตรมาส 3/62 ส่งผลให้สุทธิแล้วมีโอกาสที่จะบันทึกรายการพิเศษในไตรมาส 2/62 ยังคงเป็นลบ

ส่วนช่วงครึ่งหลังปี 62 โรงพยาบาล WMC มีแผนจะเปิดให้บริการศูนย์ IVF เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าจีนที่มีแนวโน้มเติบโตดี โดยภาพรวมปีนี้ BCH ยังตั้งเป้ารายได้เติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก โดยโครงการประกันสังคมคาดว่าได้ประโยชน์จากฐานผู้ประกันตนเพิ่มขึ้น ส่วนคนไข้เงินสดเติบโตตาม ขยายพื้นที่ให้บริการ และการเปิดศูนย์เฉพาะทาง

เบื้องต้นคาดกำไรปกติปี 62 เติบโต 16% เป็น 1.27 พันล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการรับรู้ผลบวกเต็มปีจากการเปิดศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง 3 ศูนย์ , จำนวนผู้ประกันตนโครงการประกันสังคม คาดเพิ่มราว 11% และ ประสิทธิภาพในการทำกำไรมีแนวโน้มดีขึ้น ด้วยผลการประหยัดต่อขนาด จากโรงพยาบาล WMC ที่พลิกทำกำไร

ขณะที่บทวิเคราะห์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่ามีมุมมองบวกกับแนวโน้มการติบโตของ BCH ซึ่งมีโอกาสจะได้โควตาประกันสังคมเพิ่มขึ้น และผลการดำเนินงานของ WMC เติบโตต่อเนื่อง รวมทั้งผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง และเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์ ดีขึ้นหลังจากที่เพิ่งปรับปรุงใหม่ รวมถึงการเปิดให้บริการ IVF เต็มรูปแบบในปลายในไตรมาส 3/62

ทั้งนี้ ประเมินคร่าว ๆ ว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของการเปิดให้บริการของศูนย์ IVF จะทำให้ BCH มีรายได้เพิ่มขึ้น 12-20 ล้านบาท/เดือน โดยอิงจากสมมติฐานผู้มาใช้บริการเดือนละ 30-50 ราย และคิดค่าบริการเฉลี่ยรายละ 400,000 บาท ดังนั้น ถ้ามีการใช้บริการ IVF เต็มกำลังจะทำให้ BCH มีรายได้เดือนละ 40 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับปีละ 480 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 5% ของรายได้รวมในปี 62 ขณะที่ BCH มีแผนจะเริ่มให้บริการศูนย์ IVF ในปลายไตรมาส 3/62 ซึ่งจะทำได้สูงสุดถึงปีละ 1,200 รอบ

พร้อมยังคงประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ของ BCH ไว้ที่ 1.27 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.8% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 9.9% มาที่ระดับ 1.4 พันล้านบาทในปี 63


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ