SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,651.70 จุด ลดลง 1.71 จุด (-0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 18,023.80 ล้านบาท โดยดัชนีแกว่งตัวส่วนใหญ่ในแดนบวกก่อนจะเผชิญแรงขายกดดันให้ดัชนีอ่อนตัวลงช่วงท้ายตลาด นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวกรอบแคบ นักลงทุนรอดูปัจจัยในประเทศและต่างประเทศ โดยในประเทศ ติดตามการจัดตั้งรัฐบาลว่าลงตัวหรือไม่ ส่วนปัจจัยต่างประเทศติดตามความคืบหน้าการเจรจาสงครามการค้า ทั้งระหว่างสหรัฐกับจีน และ สหรัฐกับเม็กซิโก ที่ล่าสุดมีข่าวสหรัฐอาจเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าจากเม็กซิโก แต่ภาพรวมยังเป็นปัจจัยที่ยังกดดันตลาดอยู่ ช่วงบ่ายนี้คาดว่าตลาดแกว่งตัวทั้งแดนบวก-ลบในกรอบแคบ ให้กรอบ 1,645 -1,660 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,651.70 จุด ลดลง 1.71 จุด (-0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 18,023.80 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ ก่อนจะอ่อนตัวมาเคลื่อนไหวแดนลบช่วงท้ายตลาดโดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,658.93 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,651.45 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวค่อนข้างแคบ นักลงทุนรอปัจจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยปัจจัยในประเทศหลังจากโหวตนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็รอการจัดตั้งรัฐบาลว่าคณะรัฐมนตรี(ครม.)แบ่งกันลงตัวหรือไม่ คาดว่าจะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า
ส่วนปัจจัยต่างประเทศ คอยติดตามความเคลื่อนไหวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ต่อประเด็นสงครามการค้าทั้งกับจีนและเม็กซิโก แม้ล่าสุดมีรายงานข่าวว่าสหรัฐฯเลื่อนการเก็บภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกจากเดิมที่จะเริ่มในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ แต่ภาพรวมปัจจัยสงครามการค้าก็ยังกดดันตลาดอยู่
แนวโน้มตลาดในช่วงบ่ายคาดว่าแกว่งตัวกรอบแคบ ๆ ทั้งแดนบวกและแดนลบ ให้กรอบ 1,645 -1,660 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 729.02 ล้านบาท ปิดที่ 65.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
KTC มูลค่าการซื้อขาย 705.76 ล้านบาท ปิดที่ 42.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
CK มูลค่าการซื้อขาย 568.29 ล้านบาท ปิดที่ 28.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 541.37 ล้านบาท ปิดที่ 125.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTT มูลค่าการซื้อขาย 533.59 ล้านบาท ปิดที่ 46.75 บาท ลดลง 0.25 บาท