ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,717.82 จุด เพิ่มขึ้น 11.84 จุด (+0.69%) มูลค่าการซื้อขาย 75,523.79 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,722.90 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,708.12 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 885 หลักทรัพย์ ลดลง 648 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 446 หลักทรัพย์
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคต่างเคลื่อนไหวในแดนบวกกัน เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็บวกเฉลี่ย 1% เหมือนกันดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่บ่ายนี้บวกได้ถึง 200 จุด
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานขึ้นนำตลาดฯ หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าได้ปรับตัวขึ้นราว 3% อันเป็นผลจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง นอกจากนี้ ตลาดฯยังได้แรงหนุนจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และกรณีของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนก็มีแนวโน้มที่จะคลี่คลายได้ หลังจากที่สหรัฐฯ และจีน จะพูดกันกันในการประชุม G20
อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรจะระมัดระวังการลงทุนเนื่องจากระหว่างทางตลาดฯอาจมีการพักตัวบ้าง หลังจากที่ดัชนีฯได้ปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว ส่วนวันนี้คาดว่าตลาดฯคงจะรับ Fund Flow ที่ไหลเข้ามา เห็นได้จากหุ้นบิ๊กแคปที่ขึ้นมาหนุนตลาดฯ และเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลง
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (21 มิ.ย.) นายณัฐพล กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสที่จะแผ่วลงบ้างหลังจากที่ปรับตัวขึ้นไปมาก พร้อมให้แนวรับ 1,710 จุด ส่วนแนวต้าน 1,725 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 5,671.96 ล้านบาท ปิดที่ 74.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,693.49 ล้านบาท ปิดที่ 48.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
BEM มูลค่าการซื้อขาย 2,789.25 ล้านบาท ปิดที่ 11.40 บาท ลดลง 0.40 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,552.11 ล้านบาท ปิดที่ 135.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,075.37 ล้านบาท ปิดที่ 85.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท