(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งพักฐานตามตลาดหุ้นทั่วโลกหลังเฟดไม่ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยชัดเจน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 26, 2019 09:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งพักฐาน ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็ปรับตัวลง หลังจากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่ส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกมาอย่างชัดเจนในการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวานนี้ แต่อยู่ในโหมดของ Wait & See รอดูทิศทางเศรษฐกิจก่อน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯปรับตัวลงด้วย

อย่างไรก็ดี คาดว่าตลาดบ้านเราจะ Outperform กว่าตลาดอื่นในภูมิภาค และดัชนีฯคงจะยังไม่หลุด 1,700 จุด เนื่องจากได้หุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี ช่วยประคองตลาดฯไว้ หลังจากที่ราคาน้ำมันยังทรงตัวสูงอยู่ และเงินบาทก็ยังแข็งค่ามาช่วยหนุน

พร้อมให้แนวรับ 1,713-1,714 ถัดไป 1,705 จุด ส่วนแนวต้าน 1,725-1,730 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (25 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,548.22 จุด ลดลง 179.32 จุด (-0.67%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,917.38 จุด ลดลง 27.97 จุด (-0.95%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,884.72 จุด ลดลง 120.98 จุด (-1.51%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 126.13 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 17.45 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 139.82 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 45.33 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.44 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 5.92 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.38 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 9.05 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 มิ.ย.62) 1,721.33 จุด เพิ่มขึ้น 5.33 จุด (+0.31%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,363.22 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2562
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (25 มิ.ย.62) ปิดที่ 57.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 7 เซนต์ หรือ 0.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 มิ.ย.62) ที่ 3.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 30.83/85 อ่อนค่าจากวานนี้ กังวลภาวะเศรษฐกิจ จับตาประชุมกนง.วันนี้ มองกรอบ 30.75-30.95
  • สทท. ลดคาดการณ์ต่างชาติ เที่ยวไทยปีนี้ เหลือ 40.06 ล้านคน ลดเกือบ 6 แสนคน รายได้คาดเหลือ 2.13 ล้านล้านบาท ลดลง 7 หมื่นล้านบาท หลังประเมินเศรษฐกิจโลกชะลอ ผสมโรงบาทแข็งฉุดท่องเที่ยว จี้รัฐโปรโมทดึงเที่ยวคุณภาพ เพิ่มจุดคืนแวตฯ- ดันอาเซียนวีซ่า
  • กสทช.ไฟเขียวจ่ายเงินชดเชย "สปริง-สปริงนิวส์-ไบรท์ทีวี" กว่า 1,548 ล้านบาท ลั่น 16 ส.ค.นี้ ทั้ง 3 ช่อง เข้าแถวรับเงินคืนได้ทันที คาดทั้ง 7 ช่อง กสทช.ต้องจ่ายเงินเยียวยากว่า 4,847 ล้านบาท พร้อมตั้งอนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทน เรียกคืนคลื่น 2600 จากอสมท
  • ราคาทองยังไปได้อีก! นักลงทุนสถาบันต่างชาติ แห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ดันราคาทองพุ่ง "KTBST" ชูกลยุทธ์กระจายรายได้บริหารความเสี่ยง พร้อมคงเป้ารายได้ 1,300-1,400 ล้านบาท
  • คมนาคมรับลูก สศช.ติงแผนพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ สั่งปรับให้สอดคล้องแผนพัฒนาสนามบินอู่ตะเภารถไฟเชื่อมอีอีซี ด้าน ทอท.เร่งปรับแผนเตรียมชงบอร์ดเดือน ก.ค.นี้ พร้อมชงของบ 1 พันล้านดึงตู้คีออสแก้ปัญหาคอขวดบริเวณเช็กอิน
  • ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม หรือ MPI เดือนพ.ค.62 MPI อยู่ที่ระดับ 103.68 ปรับตัวลดลงร้อยละ 3.99 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา แต่ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.63 เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2562 ทำให้ MPI ช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา(พ.ย.61-พ.ค.62) หดตัวลงร้อยละ 0.63 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ MPI เฉลี่ย 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.62) ติดลบร้อยละ 1.26

*หุ้นเด่นวันนี้

  • JMT (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า IAA Consensus 18 บาท ได้เข้าคำนวณใน SET100 รอบใหม่ ทำให้ได้ความสนใจจากนักลงทุนสถาบันเพิ่มขึ้น ด้านผลประกอบการกำไรสุทธิในปีนี้จะยังพุ่งทำ All time high ได้ในทุกไตรมาสจากรายได้ของการเรียกเก็บหนี้ที่เพิ่มขึ้นตามพอร์ตหรือฐานลูกหนี้ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีพอร์ตหนี้ในการบริหารทั้งหมด 1.4 แสนล้านบาท สามารถสร้างกระแสเงินสดต่อเนื่องได้อีกอย่างน้อย 12 ปี
  • HMPRO (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "สะสม"ปรับเพิ่มเป้าเป็น 18.20 บาท คาดกำไร Q2/62 โต 13%YoY ที่ 1,481 ล้านบาท สนับสนุนจาก SSSG(%) ในระดับ 3.5% (จาก 2.5% ใน Q1/62) ในขณะที่ประเมินแนวโน้มกำไร H2/62 ยังโตต่อเนื่อง และคาดทำ All time high ใน Q4/62 จากการเปิดให้บริการ โฮมโปร 1 สาขา โฮมโปรเอส 3-4 สาขา และ เมกาโฮม 2 สาขา และ Margin(%) ขยายตัวจาก House band ที่ระดับ 30-35%
  • TACC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 5.00-5.30 บาท (PE 25x) แม้ราคาหุ้นจะใกล้เป้า แต่มีโอกาสที่กำไรปีนี้จะดีกว่าคาดที่ 119 ลบ. (+29% Y-Y) หาก Q2/62 ทำกำไรได้มากกว่า 38-40 ลบ. เพราะครึ่งปีหลังมีปัจจัยบวกมากมายจาก 1) ธุรกิจ Character ได้ลูกค้าเพิ่ม (น้ำแร่ออร่า) 2) ยอดขายเครื่องดื่มเพิ่มจากการทำโปรโมชั่นร่วมกับ 7-11 ในช่วง Stamp Promotion 3) รายได้จากกัมพูชาเพิ่มชัดเจนหลังรุกตลาดตั้งแต่ต้นปี 4) จัด Event ใหญ่ใน Q3/62 และ 5) ไม่กังวลกับภาษีน้ำตาลที่จะปรับเพิ่มรอบ 2 (ต.ค. นี้) เพราะปรับสูตรเรียบร้อยแล้ว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ