ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,732.23 จุด ลดลง 8.68 จุด (-0.50%) มูลค่าการซื้อขาย 66,152.36 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,741.64 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,730.05 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 497 หลักทรัพย์ ลดลง 1,048 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 354 หลักทรัพย์
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้พักตัว และดูจะอ่อนแอกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ หลังจากที่ได้ตอบรับปัจจัยบวกจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่คืบหน้าในทางที่ดีขึ้นกันไปเรียบร้อยแล้ว และดัชนีฯก็ขึ้นมาติดแนว 1,750 จุด ยังไม่สามารถผ่านไปได้จนกว่าจะมีปัจจัยบวกแรง ๆ เข้ามากระตุ้น ดังนั้นในช่วงนี้ตลาดฯจึงเผชิญแรงขายทำกำไรบ้าง ในช่วงรอดูการฟอร์มทีมรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีคาดว่าจะได้เห็นในกลางเดือนก.ค.นี้ แม้ว่าระหว่างทางการเมืองจะยังไม่นิ่ง แต่เชื่อว่าท้ายสุดการตั้งรัฐบาลน่าจะทำได้
ส่วนนอกประเทศก็รอดูการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)และพันธมิตรต่อไป ซึ่งการประชุมกลุ่มโอเปกวานนี้ก็ให้การสนับสนุนในการขยายระยะเวลาการลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือน แต่วันนี้กลุ่มโอเปกจะประชุมร่วมกับรัสเซีย ก็ต้องจับตาดูจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่คิดว่าน่าจะออกมาในแนวทางเดียวกันคือลดกำลังการผลิตต่อไป
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (3 ก.ค.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะอยู่ในลักษณะแกว่งตัวเพื่อรอปัจจัยใหม่เข้ามา พร้อมให้แนวรับ 1,720 จุด ส่วนแนวต้าน 1,740 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,812.15 ล้านบาท ปิดที่ 129.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,619.41 ล้านบาท ปิดที่ 141.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,563.64 ล้านบาท ปิดที่ 86.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,513.85 ล้านบาท ปิดที่ 48.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,216.88 ล้านบาท ปิดที่ 134.50 บาท ลดลง 2.50 บาท