CKP รับทรัพย์เงินค่าหุ้น CKP-W1 จำนวน 3.57 พันลบ. หลังผู้ถือหุ้นมั่นใจใช้สิทธิ, CK ใช้สิทธิทั้งหมดขยับถือสัดส่วน 32.56%

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 3, 2019 09:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ซีเค พาวเวอร์ (CKP) เปิดเผยว่า ตามที่ CKP ได้แจ้งกำหนดการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ (CKP-W1) สำหรับงวดวันที่ 28 มิถุนายน 2562 ซึ่งมีกำหนดอัตราการใช้สิทธิที่ 1.00 หน่วย CKP-W1 ต่อ 1.0007 หุ้นสามัญ ราคาการใช้สิทธิที่ 6.00 บาทต่อ 1 หุ้นสามัญ มีกำหนดระยะเวลาการใช้สิทธิตั้งแต่วันที่ 21-27 มิถุนายน ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่า มีการใช้สิทธิจากผู้ถือหน่วยจำนวน 593,816,848 หน่วย ซื้อหุ้นสามัญจำนวน 594,232,516 หุ้น คิดเป็นเงินค่าหุ้นที่ CKP ได้รับจำนวน 3,565 ล้านบาท โดยผู้ถือหน่วย CKP-W1 ที่ใช้สิทธิหลัก คือ บมจ. ช. การช่าง (CK) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และได้ใช้สิทธิทั้งหมดที่มีในการซื้อ CKP-W1 โดยหลังจากการใช้สิทธินี้ จะทำให้ CK มีสัดส่วนการถือหุ้นใน CKP เพิ่มขึ้นเป็น 32.56%

"ผลจากการใช้สิทธิ CKP-W1 ของผู้ถือหน่วยในครั้งนี้ ทำให้บริษัทฯ มีสถานะการเงินที่แข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมที่จะรองรับการขยายงานโครงการขนาดใหญ่ตามแผนที่วางไว้ และแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในการเติบโตที่มั่นคงอย่างต่อเนื่องในอนาคตของบริษัทฯ ด้วย" นายธนวัฒน์ กล่าวและว่า โดยหลังจากการใช้สิทธิครั้งนี้ CKP ยังมีจำนวนหุ้นสามัญที่รองรับการใช้สิทธิคงเหลืออีกจำนวน 1,275,767,484 หุ้น

อนึ่ง ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (CKP-W1) ของบริษัทฯ มีอายุ 5 ปี นับจากวันที่เสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2558 โดยบริษัทฯ ได้ออกและจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ที่มีการจองซื้อและชำระราคาค่าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่ออกและเสนอขายตามสัดส่วน เป็นจำนวนทั้งหมด 1,870 ล้านหน่วย โดยมีกำหนดใช้สิทธิในวันทำการสุดท้ายของเดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และ ธันวาคม ของแต่ละปีตลอดอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ และวันใช้สิทธิวันสุดท้าย คือ วันที่ 28 พฤษภาคม 2563

บริษัทฯ ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานประเภทต่าง ๆ 3 ประเภท จำนวน 13 โครงการ รวมขนาดกำลังการผลิตติดตั้งที่ 2,167 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ 2 โครงการ ภายใต้ บริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 46% (ถือผ่าน บริษัท เซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัด) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 615 เมกะวัตต์ และบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 37.5% ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 1,285 เมกะวัตต์ และมีกำหนดเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ภายในไตรมาส 4 ปี 2562 นี้

โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม จำนวน 2 โครงการ ภายใต้ บริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ 65% ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 238 เมกะวัตต์ และโครงการไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ 9 โครงการ ภายใต้ บริษัท บางเขนชัย จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 100% จำนวน 7 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 15 เมกะวัตต์ ภายใต้ บริษัท เชียงรายโซล่าร์ จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 30% จำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 8 เมกะวัตต์ และภายใต้บริษัท นครราชสีมา โซล่าร์ จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 30% จำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 6 เมกะวัตต์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ