หุ้น ARIN ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 1.49 บาท ลดลง 0.31 บาท (-17.22%) จากราคาขาย IPO 1.80 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 154.03 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 1.63 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 1.67 บาท และราคาลงต่ำสุด 1.46 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมเบื้องต้นของบมจ.อรินสิริ แลนด์ (ARIN) โดยมองว่าราคา IPO ของ ARIN ค่อนข้างสูงเนื่องจากแนวโน้มงานของ ARIN ที่จะขาดช่วงในปี 2562-2563 ซึ่งในปัจจุบัน ARIN มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายคือ โครงการ อรินสิริ สปอร์ตวิลเลจเฟสที่ 3 ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 400 ล้านบาท และปัจจุบันมีงานในมือรอโอนอยู่ 251 ล้านบาทและโครงการโครงการที่หากอิงแนวโน้มอัตรากำไรในปัจจุบัน PER ของหุ้นจะอยู่ที่ประมาณ 30 เท่าซึ่งสูงกว่า PER ของกลุ่มอสังหาฯ ขนาดใหญ่ที่ประมาณ 13 เท่า
ARIN ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์ ภายใต้ตราสินค้า "อรินสิริ" ปัจจุบันมีทั้งหมด 3 โครงการ มูลค่ารวม 2,201.22 ล้านบาท และโครงการในอนาคตที่บริษัทเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินแล้ว มูลค่ารวมประมาณ 2,179.26 ล้านบาท โดยปัจจุบันโครงการของบริษัทตั้งอยู่ ในหัวเมืองภาคตะวันออก เช่น จังหวัดชลบุรีและจังหวัดระยอง โดยโครงการที่สำคัญในปัจจุบันอยู่ที่บริเวณถนนมิตรสัมพันธ์ในจังหวัดชลบุรี ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับปี 2559 ปี 2560 ปี 2561 และงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2562 จำนวน 83.65 ล้านบาท จำนวน 389.26 ล้านบาท จำนวน 380.14 ล้านบาท และจำนวน 71.97 ล้านบาท ตามลำดับ
โครงการในอนาคต : บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาโครงการในอนาคต ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวมประมาณ 2,179.26 ล้านบาท ได้แก่ 1. โครงการอรินสิริ บีช @ บ้านฉาง 2. โครงการอรินสิริ เมาท์เท่น 3. โครงการอรินสิริ แคมปัส 4. โครงการอรินสิริ บีชคอนโด 1,2
นายสัมฤทธิ์ชัย ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 1 บล.คันทรี่ กรุ๊ป ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ARIN เปิดเผยว่า การเข้าซื้อขายวันแรกของ ARIN วันนี้ ราคาอาจจะมีการปรับตัวลดลงมาจากราคา IPO ที่ 1.80 บาท แม้ว่าจะมีความต้องการซื้อในช่วงการเสนอขายหุ้น IPO เกินจำนวนก็ตาม โดยมองว่าเป็นผลมาจากการที่บริษัทได้เลื่อนการเข้าซื้อขายหุ้นในครั้งก่อน และเป็นทิศทางเดียวกับหุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่เข้าซื้อขายในช่วงที่ผ่านมา
แต่อย่างไรก็ตามการปรับลดลงในครั้งนี้ปริมาณการซื้อขายไม่ได้มากนัก แสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังมีความมั่นใจ และหลังจากนี้บริษัทจะใช้เครื่องมือทางการเงินต่าง ๆ ที่มีเพื่อที่จะสร้างผลประกอบการให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทเตรียมออกหุ้นกู้มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายโครงการใหม่ จากก่อนหน้านี้บริษัทได้ออกหุ้นกู้ไปแล้วมูลค่าราว 100 ล้านบาท โดยบริษัทได้ขอที่ประชุมผู้ถือหุ้นไว้ในวงเงินออกหุ้นกู้ที่ 300 ล้านบาท
"แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลดลงในช่วงการเปิดซื้อขายวันนี้ แต่อย่างไรก็ตามมองว่านักลงทุนยังให้ความมั่นใจกับบริษัท ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ไม่มากนัก โดยบริษัทเตรียมที่จะใช้เครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อที่จะเสริมศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าผลประกอบการจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้"นายสัมฤทธิ์ชัย กล่าว