กองทรัสต์ AIMIRT เคาะช่วงราคาทรัสต์เพิ่มทุน 11.20-11.50 บาท/หน่วย ขายผู้ถือหน่วยเดิม 1:0.8750 และ PO

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 11, 2019 11:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอมร จุฬาลักษณานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์อิสระ ในฐานะผู้ก่อตั้งทรัสต์และผู้จัดการกองทรัสต์ เอไอเอ็ม อินดัสเทรียล โกรท (AIMIRT) เปิดเผยว่า หลังจากทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เอไอเอ็ม อินดัสเทรียล โกรท (AIMIRT) ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ 1 และแบบแสดงรายการข้อมูล (Filing) การเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมครั้งที่ 1 ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ในกรรมสิทธิ์และสิทธิการเช่าทรัพย์สิน 4 โครงการ รวมมูลค่าไม่เกิน 4,300 ล้านบาท ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. ได้อนุญาตให้เสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมเป็นที่เรียบร้อย

นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า กองทรัสต์ AIMIRT กำหนดช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้นหน่วยทรัสต์เพิ่มทุนครั้งที่ 1 จำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 271,250,000 หน่วย ที่ราคา 11.20 - 11.50 บาทต่อหน่วย โดยจะเสนอขายแก่ 1. หน่วยทรัสต์ต่อประชาชนทั่วไปเฉพาะกลุ่มซึ่งเป็นผู้ถือหน่วยเดิมที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยทรัสต์ (Preferential Offering) ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2562 ในสัดส่วนประมาณร้อยละ 50 ของจำนวนหน่วยทรัสต์ทั้งหมดที่ออกในการเพิ่มทุนครั้งที่ 1 หรือประมาณ 135,625,000 หน่วย โดยกำหนดอัตราส่วนใช้สิทธิ์จองซื้อที่ 1 หน่วยทรัสต์เดิม ต่อ 0.8750 หน่วยทรัสต์ใหม่ ซึ่งนักลงทุนที่ต้องการได้รับสิทธิจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมจะต้องจองซื้อหน่วยทรัสต์ภายในวันที่ 12 กรกฏาคม 2562 ก่อนขึ้นเครื่องหมาย XB ในวันที่ 15 กรกฏาคมนี้

และ 2. เสนอขายหน่วยทรัสต์ต่อประชาชนทั่วไป (Public Offering) ซึ่งรวมถึงผู้ลงทุนสถาบัน บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ที่เป็นบริษัทเจ้าของทรัพย์สิน และ/หรือ กลุ่มบุคคลเดียวกันของบริษัทเจ้าของทรัพย์สิน และ/หรือ บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ที่ไม่ใช่บริษัทเจ้าของทรัพย์สิน และ/หรือ กลุ่มบุคคลเดียวกันของบริษัทเจ้าของทรัพย์สิน ประมาณร้อยละ 50 ของจำนวนหน่วยทรัสต์ทั้งหมดที่ออกในการเพิ่มทุนครั้งที่ 1 นี้ หรือประมาณ 135,625,000 หน่วย

ทั้งนี้ ภายหลังกองทรัสต์ AIMIRT เข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 คาดว่าอัตราผลตอบแทนในปีแรกจะอยู่ที่ประมาณ 0.8640 - 0.8648 บาทต่อหน่วย (ประมาณการอัตราการปันส่วนกำไรสำหรับงวด 12 เดือนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ถึง 30 มิถุนายน 2563 กรณีที่กองทรัสต์เข้าลงทุนในทรัพย์สินที่กองทรัสต์จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่หนึ่ง ทั้ง 4 โครงการ ไม่เกิน 4,200 ล้านบาท โดยการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์จำนวน 271,250,000 หน่วย ภายใต้สมมติฐานว่า กองทรัสต์ประมาณอัตราการจ่ายประโยชน์ผลตอบแทนร้อยละ 100 และออกหน่วยเพิ่มเติม 271,250,000 หน่วย ที่ราคา 11.20 - 11.50 บาทต่อหน่วย)

นายอมร กล่าวว่า การระดมทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ของกองทรัสต์ AIMIRT จะนำเงินไปลงทุนในทรัพย์สิน 4 โครงการ ประกอบด้วย 1. ห้องเย็นโครงการเจดับเบิ้ลยูดี แปซิฟิค (ส่วนขยายเพิ่มเติม) บนถนนสุวินทวงศ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ของบมจ. เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ (JWD) จำนวน 1 ยูนิต พื้นที่รวมประมาณ 2,708 ตารางเมตร 2. คลังสินค้าโครงการ TIP 8 บนถนนเลียบคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ บริเวณบางนา-ตราด จังหวัดสมุทรปราการ ของบริษัท ทิพย์โฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 4 ยูนิต พื้นที่รวมประมาณ 34,693 ตารางเมตร

3. ถังเก็บสารเคมีเหลว จำนวน 61 ถัง ปริมาตรความจุถังรวมประมาณ 85,380 กิโลลิตร และคลังสินค้า จำนวน 3 ยูนิต พื้นที่รวมประมาณ 16,726 ตารางเมตร ในโครงการ SCC บนถนนสุขสวัสดิ์ จังหวัดสมุทรปราการ ของบมจ.สยามเฆมี และ 4. คลังสินค้าโครงการสวนอุตสาหกรรมบางกะดี บริเวณจังหวัดปทุมธานี ของบริษัท สวนอุตสาหกรรมบางกะดี จำกัด จำนวน 1 ยูนิต พื้นที่รวมประมาณ 14,600 ตารางเมตร

โดยภายหลังการเข้าลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้จะทำให้กองทรัสต์ AIMIRT มีขนาดทรัพย์สินรวมประมาณ 6,400 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นกว่า 3 เท่าตัว จากการลงทุนครั้งแรกที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 2,140 ล้านบาท ซึ่งการเข้าลงทุนเพิ่มเติมของกองทรัสต์ AIMIRT จะช่วยเสริมสภาพคล่องและเพิ่มโอกาสที่นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น รวมถึงมีการกระจายความเสี่ยงลงทุนในทรัพย์สินที่หลากหลายยิ่งขึ้น ทั้งห้องเย็น คลังสินค้า และถังเก็บสารเคมีเหลว และกลุ่มผู้เช่าซึ่งล้วนเป็นผู้นำในภาคอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ

นายจรัสฤทธิ์ อรรถเวทยวรวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า การลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้ บริษัทฯ ได้คัดเลือกทรัพย์สินคุณภาพที่มีความโดดเด่นด้านทำเลที่ตั้ง และมีฐานลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในทรัพย์สินใหม่ ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่มีความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงิน เช่น ไทยออยล์ ปิโตรนาส เอสโซ่ เป็นต้น โดยทรัพย์สินที่กองทรัสต์ AIMIRT จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ทั้ง 4 โครงการ เป็นการลงทุนจากเจ้าของทรัพย์สินรายเดิม 2 โครงการ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายทรัพย์สินแก่กองทรัสต์ AIMIRT ในการลงทุนครั้งแรก ได้แก่ กลุ่ม JWD และ บริษัท ทิพย์โฮลดิ้ง จำกัด

ขณะเดียวกันกองทรัสต์จะลงทุนในทรัพย์สินจากเจ้าของทรัพย์สินรายใหม่ 2 โครงการ ได้แก่ กลุ่มบมจ.สยามเฆมี และบริษัท สวนอุตสาหกรรมบางกะดี จำกัด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเปิดกว้างในการคัดเลือกทรัพย์สินที่มีคุณภาพเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ