GBS มองหุ้นไทยขณะนี้แกว่ง Sideway กรอบ 1,724-1,745 จุด หลังยังไร้ปัจจัยหนุน ,จับตาประชุมเฟดสิ้นก.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 23, 2019 10:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ฝ่ายวิจัยบล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินดัชนีหุ้นไทยขณะนี้ยังคงแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ในกรอบ 1,724-1,745 จุด เนื่องจากยังไร้ปัจจัยใหม่ ๆ เข้ามาสนับสนุนการลงทุน แม้ว่าจะมีหลายฝ่ายออกมาคาดการณ์มุมมองในเชิงบวกต่อภาคการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่จะแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันที่ 25-26 ก.ค. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรวมถึงกรณีเครื่องมือ Fed Watch ที่บ่งชี้ว่านักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 100% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25-0.50% ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 30-31 ก.ค.

ขณะที่ความตึงเครียดในตะวันออกกลางส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) ได้เข้ายึดเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งของอังกฤษ ขณะแล่นเข้าสู่น่านน้ำของอิหร่าน รวมทั้ง "ฟิทช์ เรทติ้งส์" ปรับมุมมองประเทศไทยจาก "Stable" เป็น "Positive" ซึ่งปัจจัยดังกล่าวไม่มีน้ำหนักต่อการตัดสินใจลงทุน

นอกจากนี้ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ได้มีการรายงานตัวเลขการส่งออกเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา หดตัว 2.15% ส่งผลให้ตัวเลขในรอบ 6 เดือนของปี 2562 การส่งออกลดลง 2.91% ส่วนแนวโน้มส่งออกในไตรมาส 3/62 คาดว่าจะต่ำสุดจากผลกระทบของสงครามการค้า

"ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์แกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยยังขาดปัจจัยใหม่หนุนตลาด นักลงทุนยังคงจับตาการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้าอย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ส่วนปัจจัยในประเทศจับตานโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และติดตามผลประกอบการหุ้นกลุ่มพลังงานที่จะทยอยประกาศออกมา คาดดัชนี SET จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,724-1,745 จุด"ฝ่ายวิจัย GBS ระบุ

ด้านนางสาว วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย GBS กล่าวว่า แม้ดัชนีตลาดหุ้นไทย ยังคงทรงตัวในกรอบแคบ ๆ แต่นักลงทุนก็ยังคงต้องจับตาปัจจัยในต่างประเทศที่จะเป็นตัวแปรด้านการลงทุนในขณะนี้จนถึงสิ้นเดือน ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือน พ.ค. ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. ดัชนีภาคการผลิตเดือน ก.ค.จากเฟดริชมอนด์ สหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ค.ที่จะมีการประกาศออกมาในวันที่ 23 ก.ค.นี้

รวมถึงเรื่องที่ อียู จะออกมาเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.ค.จากมาร์กิต สหรัฐ เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-บริการขั้นต้นเดือน ก.ค.จากมาร์กิต ยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ในวันที่ 24 ก.ค. หรือแม้แต่การเตรียมแถลงนโยบายรัฐบาล ภายใต้ครม.ชุดใหม่ ต่อรัฐสภา ในวันที่ 25 ก.ค. และในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ที่สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) จะแถลงดัชนีอุตสาหกรรม

นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย GBS วิเคราะห์หุ้นน่าลงทุน ในช่วงที่ดัชนีหุ้นยังคงทรงตัว โดยให้น้ำหนัก ไปยังหุ้น Mid&Small เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/62 มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น ดังนั้น จึงแนะทุน VL, AMA, TACC, JUBILE, SABINA และ NER นอกจากนี้ ยังแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ อาทิ STEC, CK, STPI และ SEAFCO ในขณะที่หุ้นกลุ่มเดินเรือ อย่าง TTA, PSL และ RCL เป็นอีกกลุ่มที่น่าจับตา พร้อมกันนี้ ฝ่ายวิจัย ยังมีมุมมองเชิงบวกที่จะได้อานิสงส์จากโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จึงยกให้ WHA AMATA ROJNA ORI ATP30 เป็นหุ้น Theme EEC play ที่น่าลงทุน

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ แนะให้นักลงทุนหาจังหวะซื้อเมื่ออ่อนตัว โดยมองว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,410-1,440 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทยที่ 20,510-20,990 บาท พร้อมทั้งมองว่า ราคาทองคำอ่อนตัวลง เนื่องจากบริษัทจีนเตรียมนำเข้าสินค้าเกษตร จากสหรัฐเพิ่มขึ้นบ่งชี้ถึงสงครามการค้าเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ทำให้ทองคำได้รับความสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ