นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าลงทุนในบริษัท คัดกาลบี้ กรุ๊ป จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารเกาหลี (Real Time Cooking) ภายใต้แบรนด์ Dak Galbi โดยเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 41.35% และใช้เงินลงทุน 55 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (Start Up) ให้เข้าถึงเทคโนโลยี ระบบบริหารจัดการ องค์ความรู้ เครือข่าย เงินทุน และทรัพยากรต่างๆ รวมถึงการสนับสนุนจากทีมงานของซีพีเอฟ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทดังกล่าว สามารถใช้ศักยภาพที่มีในการขยายงานและพัฒนาธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง และเติบโตเป็นเจ้าของเขนร้านอาหารระดับโลก (Global Chain Restaurant) ได้ในอนาคต
ทั้งนี้ การเข้าลงทุนในบริษัทดังกล่าว ถือเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพรายแรกที่บริษัทได้ให้การสนับสนุน โดยมีการพิจารณาจากความมุ่งมั่นและตั้งใจ ในการสร้างร้านอาหารของตนเองให้ประสบความสำเร็จ และมีวิสัยทัศน์ที่จะมุ่งขยายเชนสาขาร้านอาหารทั้งในประเทศและต่างประเทศ สอดคล้องกับเป้าหมายของ CPF ซึ่งบริษัทฯ ก็มีแผนเข้าถือหุ้นเพิ่มเป็น 60% ในปี 63 ด้วย
นางปรียาวรรณ ตันตสุรฤกษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ดัคกาลบี้ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ภายหลังจากที่ CPF ได้เข้ามาให้การสนับสนุนธุรกิจ บริษัทก็ได้ขยายเชนร้านอาหารใหม่ภายใต้แบรนด์ Wok station สไตล์ Asian Street Food ที่มีรูปแบบการให้บริการปรุงอาหารสดตามความต้องการลูกค้า ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ต้องการอาหารถูกปาก สะอาด ถูกอนามัย มีความสนุกสนานในการสั่งอาหาร ให้เลือกได้ทั้งแบบตามใจสั่งและสั่งตามสูตร
ปัจจุบัน Wok station มีสาขาอยู่จำนวน 3 สาขา และตั้งเป้าจะขยายเป็น 10 สาขาภายในปีนี้ ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างศึกษาการขยายสาขาไปยังต่างประเทศ โดยมีความสนใจในประเทศจีน คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในปี 63 และมองการขยายสาขาไปยังประเทศสหรัฐฯ และออสเตรเลียต่อไปในอนาคต เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีการเติบโตของประชากรค่อนข้างสูง และเข้าใจสไตล์ร้านอาหารในรูปแบบ Asian Street Food ขณะเดียวกันในประเทศจีนมีรูปแบบการใช้จ่ายผ่านแอพพลิเคชั่น ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่บริษัทต้องการจะนำมาใช้กับร้านอาหารในเครือ
ส่วนร้านอาหารภายใต้แบรนด์ DAK Galbai ปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 10 สาขา เร็วๆนี้เตรียมรีเฟรชแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อใหม่ เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบของร้านอาหารให้มีความทันสมัยมากขึ้น ซึ่งจะมีการ Relocate สาขาเดิมจำนวน 2-3 สาขา ได้แก่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาพระราม 9 และศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 เป็นต้น และมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 2 สาขา ได้แก่ สยามลิโด้ และยูเนียน มอลล์
นอกเหนือจากแบรนด์ร้านอาหารที่มีอยู่ในปัจจุบัน บริษัทก็อยู่ระหว่างศึกษาขยายเชนร้านอาหารเอเชียเพิ่มเติม คาดว่าจะสามารถเห็นความชัดเจนได้ในช่วงปลายปีนี้
นางปรียาวรรณ กล่าวว่า บริษัทยังมีความสนใจที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอนาคตเพื่อขยายการเติบโตของธุรกิจ ซึ่งผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปี (59-61) บริษัทมีรายได้ในปี 59 อยู่ที่ 183 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 9 ล้านบาท, ปี 60 มีรายได้ที่ 171 ล้านบาท กำไรสุทธิที่ 3 ล้านบาท และในปี 61 มีรายได้อยู่ที่ 142 ล้านบาท กำไรสุทธิที่ 1 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในปี 62 บริษัทจะมุ่งเน้นการขยายสาขาให้เพิ่มขึ้น คาดว่าน่าจะเห็นผลจากการลงทุนทั้งรายได้และกำไรสุทธิเข้ามาอย่างชัดเจนตั้งแต่ปี 63 เป็นต้นไป
นายประสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า CPF ยังคงมองหาการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพอย่างต่อเนื่อง โดยจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจ และกลุ่มที่มีการพัฒนาเป็นธุรกิจ หรือสามารถสร้างรายได้ได้ ซึ่งสองกลุ่มดังกล่าวนี้บริษัทจะลงทุนผ่านกองทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้กองทุนเป็นผู้พิจารณาลงทุนให้ ส่วนกลุ่มที่มีโอกาสเติบโต อย่างดัคกาลบี้ กรุ๊ป บริษัทฯ จะเป็นผู้พิจารณาเข้าลงทุนเอง ซึ่งปัจจุบันก็อยู่ระหว่างพิจารณา 20-30 บริษัท แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะเห็นความชัดเจนกี่ราย