(เพิ่มเติม) บลจ.วี ตั้งเป้า AUM แตะ 1 หมื่นลบ.ใน 3 ปี จากปัจจุบัน 3.19 พันลบ. พร้อมเปิดขายกองทุน WE-GTECH

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 31, 2019 13:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวงามนภา ธวัชโชคทวี กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บลจ.วี เปิดเผยว่า เป้าหมายในปี 62 ตั้งเป้าขยายสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ให้เติบโตที่ 6,700 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบรรลุเป้าไปแล้ว 48% และตั้งเป้า AUM ที่ 10,000 ล้านบาท ใน 3 ปีข้างหน้า โดยจะเติบโต 20% และ 50% ในปี 63 และปี 64 ตามลำดับ

บลจ.วี มี บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ถือหุ้น 51% และอีก 49% ถือหุ้นโดยคณะผู้บริหาร หลังจากเริ่มดำเนินธุรกิจอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 มี.ค.62 ได้เสนอขายกองทุนไปแล้ว 7 กองทุน ผ่านตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุน (Selling agent) คือ KTBST ปัจจุบัน ณ วันที่ 30 มิ.ย.62 มี AUM อยู่ที่ 3,196 ล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ 88% และกองทุนรวมต่างประเทศ 12%

นายอิศรา พุฒตาลศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.วี กล่าวว่า บลจ.วี มีปรัชญาในการบริหารการลงทุน 4 ข้อ คือ 1.) การบริหารการลงทุนแบบ Top Down และ Bottom up 2.) การกำหนดกลยุทธ์เพื่อกระจายความเสี่ยงในแต่ละประเภทสินทรัพย์ (Strategic and Tactical Asset Allocation) 3.) ยึดหลักการบริหารงานเป็นทีม (Team Approach) โดยมีคณะกรรมการการลงทุน (Investment Committee) เป็นศูนย์กลางการบริหารการลงทุน และมีคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง (Risk Management Committee) ในการตรวจสอบกลยุทธ์การลงทุน และ 4.) การมีวินัยในการลงทุน และ ผู้จัดการกองทุนยึดหลักความรอบคอบระมัดระวัง (Disciplined & Prudence) เน้นที่วัตถุประสงค์การลงทุนที่ชัดเจน และมีระบบในการตรวจสอบอย่างสม่ำเสนอ

ด้านนางสาวนิตยา เลิศแสงเพชร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์และช่องทางบริการ"บลจ.วี เปิดเผยว่า ในด้านของผลิตภัณฑ์มุ่งเน้นการสร้างผลตอบแทนควบคู่กับการบริหารความเสี่ยง โดยเน้นในด้านความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการบริหารจัดการกองทุน ซึ่งจุดแข็งของบริษัทในด้านของบุคลากรและพันธมิตรทางธุรกิจด้านจัดการลงทุน ทำให้บริษัทสามารถเติมเต็มผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์การลงทุนได้ดี

ในช่วงครึ่งปีหลัง บลจ.วี มีแผนในการออกกองทุนรวมอีก ประมาณ 12 กองทุน ได้แก่ กองทุนทางเลือกทดแทนกองทุนตราสารหนี้ ประเภท Term Fund กองทุนตราสารทุน ประเภท Global Security Fund, กองทุนต่างประเทศ ที่เน้นการจัดสินทรัพย์การลงทุนประเภท Global Multi Asset Income Fund และกองทุนตราสารทุน เพื่อให้มีผลิตภัณฑ์ตอบสนองความต้องการลูกค้าในการจัดสรรพอรต์การลงทุนที่เหมาะสมในปีนี้

ด้านช่องทางการขาย ปัจจุบันบริษัทได้เชื่อมต่อระบบ FundConnext ซึ่งเป็นระบบหลักที่สามารถรองรับช่องทางการขายได้หลากหลายช่องทาง ทั้งด้านตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุน (Selling agent) และการเชื่อมต่อกับ Fintech โดยระบบสามารถรองรับการซื้อขายหน่วยลงทุนกับตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุนได้ดี สะท้อนจากการเสนอขายหน่วยลงทุนช่วงที่ผ่านมาของบริษัทผ่านทาง KTBST บนระบบดังกล่าว

ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงปลายปี บริษัทจะสามารถเปิดช่องทางซื้อขายกองทุนรวมผ่าน Streaming for Fund และการเปิดบัญชีซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ตได้ รวมถึงการขยายช่องทางการขายผ่านตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุนอื่น ๆ ที่จะเริ่มทยอยเพิ่มขึ้นในปีนี้ เปิด IPO กองทุน WE-GTECH ลงทุนหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลก

นางสาวนิตยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่วันนี้ถึง 7 ส.ค.62 บลจ.วี เปิดเสนอขาย IPO กองทุนเปิด วี โกลบอลเทคโนโลยี (WE-GTECH) ซึ่งเป็นกองทุนที่เราเชื่อว่าการลงทุนในเทคโนโลยีเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ผู้ลงทุนควรจัดสรรอยู่ในพอร์ตการลงทุน จากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคตามกระแสการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคดิจิทัล ซึ่งธุรกิจต่าง ๆ มีการปรับตัวใช้เทคโนโลยีเติมเต็มธุรกิจเพื่อตอบสนองผู้บริโภค ขณะเดียวกันการคัดเลือกหุ้นเทคโนโลยีจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถวิเคราะห์แนวโน้มการทำธุรกิจของหุ้นเทคว่าสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและบริหารความเสี่ยงได้ดี บลจ.วี จึงคัดเลือก POLAR CAPITAL ASSET MANAGEMENT ซึ่งเป็นผู้นำด้านการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีที่ในยุโรปเป็นผู้บริหารกองทุนดังกล่าว

ทั้งนี้ กองทุนเปิด WE-GTECH มีนโยบายลงทุนในหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีการเติบโตตาม Mega Trendทั่วโลก ผ่านกองทุนหลัก POLAR CAPITAL FUNDS PLC GLOBAL TECHNOLOGY FUND ที่เน้นเลือกลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของกระแสโลกและพฤติกรรมผู้บริโภค และมีแนวโน้มการเติบโตของรายได้และกระแสเงินสดสม่ำเสมอ

กองทุนกระจายลงทุนใน 8 กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสำคัญที่อยู่ในโครงสร้างธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เติบโตยั่งยืนตามพฤติกรรมผู้บริโภค ได้แก่ E-Commerce and Payment, Digital Advertising and Marketing, Cyber and Physical Security, Cloud Infrastructure, Software As A Service, Digital Content and Gaming, Robotic and Automation และ Rising Semiconductor Complexity โดยเลือกลงทุนในบริษัทที่มีมูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่า 200 ล้านดอลลาร์ มีการเติบโตอย่างน้อยในระดับ 1.5-2 เท่า เมื่อเทียบกับการเติบโตของดัชนี และมีการเติบโตของรายได้ประมาณ 15-25% ต่อปี ซึ่งจากแนวทางการบริหารกองทุนที่มีความชัดเจนสะท้อนผลถึงการดำเนินงานกองทุนที่ดีตลอดช่วงการบริหารกองทุนกว่า 10 ปีที่ผ่านมา

บลจ.วี ประเมินว่ากำไรของกลุ่มเทคโนโลยีในไตรมาสที่ 2 จะยังมีการเติบโตที่ดี ขณะที่การส่งสัญญาณผ่อนคลายของนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงครึ่งปีหลัง จะส่งผลบวกต่อราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ